พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2558

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2558

วันที่นำเข้าข้อมูล 22 มิ.ย. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,631 view
 

รายการคืนความสุขให้คนในชาติ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2558 เวลา 20.15 น.

สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน

ตามที่จุฬาราชมนตรีได้มีประกาศ กำหนดให้ วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2558 เป็นวันที่ 1 ของเดือน "รอมฎอน" ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1436 ซึ่งได้เวียนมาบรรจบครบรอบปี อีกครั้งหนึ่ง ผมขอส่งความระลึกถึง และความปรารถนาดีมายังพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศด้วยความจริงใจ

เดือนรอมฎอน เป็นวาระที่มีความสำคัญของศาสนาอิสลาม เป็นเดือนแห่งความเชื่อมั่น ที่มวลมุสลิมจะปฏิบัติตามท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) อย่างเต็มความสามารถ ด้วยจิตใจที่แน่วแน่ มั่นคง  โดยการถือศีลอด งดเว้นการบริโภคอาหารและ เครื่องดื่มทุกชนิด ตั้งแต่รุ่งสาง จนถึงตะวันลับขอบฟ้า ละเว้นการกระทำที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ตนเองและสังคม

ผมขออวยพรให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกคนสามารถบำเพ็ญกุศล ถือศีลอดในเดือนรอมฎอนได้บรรลุผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ทุกประการ และขอให้ผลของการบำเพ็ญตน ส่งเสริมให้ทุกคนประสบแต่ความสุข ความเจริญ และสัมฤทธิผลในสิ่งอันพึงปรารถนาโดยทั่วกัน

ผมขอแสดงความยินดีกับทัพนักกีฬาของไทยทุกคนที่ประสบความสำเร็จ สามารถครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ณ ประเทศสิงคโปร์ที่เพิ่งจบไป นักกีฬาจากประเทศไทยสามารถคว้าเหรียญทองมาได้ถึง 95 เหรียญ เหรียญเงิน 83 เหรียญ และเหรียญทองแดง 69 เหรียญ ผมขอชื่นชมทั้งนักกีฬา หัวหน้าทีม ครูผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ทุ่มเท เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อนำความสุขมาให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน

ผมได้มีโอกาสติดตามดูการแข่งขันบ้างหากมีเวลา ทั้งตอนที่ไปเยือนสิงคโปร์และผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ เชื่อว่าผมสามารถพูดแทนคนไทยหลาย ๆ คน ที่อยากจะพูดว่าเรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เห็นตัวแทนนักกีฬาของไทยประสบความสำเร็จในครั้งนี้ แต่ที่สำคัญเราได้เห็นตัวแทนประเทศไทยแสดงออกถึงความรัก ความสามัคคี ความตั้งใจ ความเป็นมิตร ความพยายาม และความมีน้ำใจนักกีฬาให้ทั่วโลกได้เห็น อันนี้รวมไปถึงกองเชียร์ด้วย

กีฬาควรทำให้เกิดความรักความสามัคคี รู้แพ้รู้ชนะ รู้จักให้เกียรติกันและกัน ในสนามแข่งเป็นคู่แข่งขัน นอกสนามก็ต้องเป็นเพื่อนเป็นมิตรกัน ในสนามนอกสนามต่างกัน สิ่งที่สำคัญคือเราเป็นมิตรกับทุกคน ผมคิดว่าซีเกมส์ครั้งนี้ นอกจากเราจะดีใจที่ได้เป็นเจ้าเหรียญทองแล้ว เราต้องภูมิใจด้วยว่าตัวแทนของเราทุกคนนั้น ได้ทำหน้าที่ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด ก็ขอเป็นกำลังใจต่อไป ใครที่ประสบความสำเร็จแล้ว ก็ขอให้พัฒนาตนเองขึ้นเรื่อย ๆ ใครที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ก็ขอให้พยายามต่อไป แม้ยังไม่ชนะ เราก็ต้องได้เพื่อน

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ผมได้ไปร่วมงานวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2558 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้สังคมเกิดการตื่นตัว ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติจากการทำลายทรัพยากรเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งแก้ปัญหาเพราะมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อทุกมิติของสังคม ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่แปรปรวน ฝนไม่ตก หรือมลพิษที่ทำลายสุขภาพประชาชน จนถึงการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคน         ทำอย่างไรเราจะแก้ไขพฤติกรรมนั้น และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำลายทรัพยากรให้เสื่อมโทรม จะต้องยุติให้ได้ เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน คือครอบครัวของคนไทย ซึ่งจะต้องเริ่มจากครอบครัว ที่พ่อแม่ต้องมีเวลาให้ลูก เป็นตัวอย่างที่ดี ลูกก็ต้องมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับพ่อแม่ ต่อมาโรงเรียนต้องสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระเบียบกฎหมายต่าง ๆ มีไว้เพื่ออะไร ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างไร ทำอย่างไรทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว วันนี้จะสามารถรองรับความต้องการของคน 70 ล้านคนได้

รัฐบาลได้น้อมนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และนโยบายในการพัฒนาประเทศ ที่เน้นการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในระหว่างงานนั้น ผมได้พบกับบุคคลต่าง ๆ ที่ได้มีส่วนช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ผมอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังวันนี้ คือได้ยินมาจากชาวบ้านว่า ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในงานได้เล่าให้ฟังถึงพระครูวิมลปัญญาคุณ จากวัดป่าศรีแสงธรรม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งท่านเป็นนักประดิษฐ์ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และนโยบายชุมชนเข้มแข็งของรัฐบาลมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยได้นำโซลาร์เซลล์มาผลิตไฟฟ้า สำหรับใช้ในโรงเรียนศรีแสงธรรม ที่เน้นการสอนนักเรียนให้พึ่งพาตนเองในทุก ๆ ด้านรวมถึงด้านพลังงานที่มีการผลิตไฟฟ้าใช้เอง ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ 100% เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามแนวชายแดน และแหล่งเรียนรู้ชุมชนจนถึงเป็นต้นแบบโรงเรียนพลังงานเพื่อชาติ นอกจากนี้ท่านยังได้ประดิษฐ์ “รถเข็นไฟฟ้าชุดนอนนา” เพื่อให้เกษตรกรได้นำไปใช้ตามท้องไร่ ทุ่งนาที่ไฟฟ้าเข้าไปไม่ถึง โดยสามารถแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าได้ สามารถปั๊มน้ำ สูบน้ำ เปิดไฟได้ ท่านได้เปิดอบรมให้ชาวบ้านที่สนใจไปแล้ว 2 รุ่น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการผลิตไฟฟ้าใช้เองนั้น ยังคงมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ตามระเบียบ ที่ยังไม่ทันสมัยนัก อาจจะไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในปัจจุบัน กำลังแก้ไขอยู่ ที่อยากเห็นพี่น้องประชาชนมีความเข้มแข็ง สามารถช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวและชุมชนได้ รวมทั้งให้ความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมีการวิจัยและพัฒนาเพื่อสังคมด้วย ผมได้สั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาความเป็นไปได้ ในการปรับปรุงกฎหมายข้อบังคับต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมนโยบายของรัฐ อย่าให้ขัดแย้งกัน ให้ไปดูว่าทำได้หรือไม่ จะมีผลกระทบอะไร อะไรที่ทำได้ ช่วยได้ ก็ทำไป อะไรยังไม่ได้ก็ต้องทำความเข้าใจ ปัญหาของเราก็คือการสร้างความเข้าใจที่มีต่อกัน และเราก็ไปหาหนทางอื่น มาทดแทนจะได้เป็นกำลังใจให้กันและกัน และเกิดผลสัมฤทธิ์ได้

เรื่องเศรษฐกิจ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ อาทิ การจัดตั้งศูนย์อาหารจานด่วนในเขตชุมชน ให้ขายอาหารคุณภาพจานละไม่เกิน 20 บาท โดยจะจัดให้มีการรวมตัวของพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการในชุมชนหลาย ๆ พื้นที่ และให้กระทรวงการคลังพิจารณาดูว่าจะดูแลเรื่องเงินทุนสนับสนุนอะไรต่าง ๆ ได้หรือไม่ อย่างไร สิ่งนี้อาจจะช่วยพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ที่มีรายได้น้อยให้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งในเรื่องของการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร แปรงสีฟัน สบู่ ราคาถูก คุณภาพดี และการส่งเสริมการประกอบอาชีพค้าขายในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการจัดจำหน่ายข้าวสารในราคาที่เหมาะสม อยากจะดูแลพี่น้องประชาชน ที่มีรายได้น้อยเป็นหลัก รัฐบาลได้เตรียมการจัดจำหน่ายข้าว ที่อยู่ในคลัง เป็นข้าวที่รับประทานได้ คุณภาพดี ให้แก่พี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยเป็นหลัก

นอกจากนี้กระบวนการ ในการนำข้าวออกจากคลังนั้น ได้กำชับให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลไม่ให้เกิดการทุจริต หรือการรั่วไหล โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการ ตั้งแต่การปรับปรุงคุณภาพข้าว จนถึงการส่งมอบ และนำข้าวไปจัดจำหน่าย ต้องไม่มีการทุจริตใด ๆ เกิดขึ้นอีก เช่นเดียวกันอีกหลาย ๆ โครงการที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เช่น การตรวจสอบสต๊อกยางและการระบายยางจะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส

วันนี้ติดตามอยู่ทุกเรื่อง ไม่ใช่ว่าจำนวนสต๊อกยางพาราที่มีคุณภาพดีนั้น จริง ๆ แล้วมีอยู่มาก แต่รายงานมาว่าน้อย อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง เพื่อจะถือโอกาสลักลอบนำยางในสต๊อกไปขายในราคาถูก จะต้องมีการลงโทษผู้กระทำความผิดด้วย ผมได้มอบให้ทีมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) เข้าไปตรวจสอบด้วยในหลาย ๆ โครงการ

อย่างไรก็ตาม ผมจะต้องขอความร่วมมือกับพี่น้องชาวสวนยางและพี่น้องประชาชนทุกคน ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา  หากพบเห็นเบาะแสการทุจริตไม่ว่าในเรื่องใด หรือโครงการใด ๆ ก็ตาม ขอให้แจ้งมาทันที อาจจะแจ้งศูนย์ดำรงธรรม แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วในทุกจังหวัด ถ้าไม่มีก็มาที่ศูนย์ดำรงธรรมของรัฐบาล ไม่อยากให้การตั้งใจดีของรัฐบาลนั้น เป็นหมัน คือต้องการจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนของเราจริง ๆ ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องเสียไปกับกลุ่มคนเหล่านี้ ที่แสวงหาผลประโยชน์อยู่ทุกโอกาส เราต้องช่วยขจัดคนเหล่านี้ออกไปให้ได้ ไม่ให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่นอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ อย่างก็ตามก็เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะว่าวันนี้สังคมไทยกำลังขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี เราวางอนาคตไว้วันหน้า เราต้องตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องเหล่านี้

ขอความร่วมมืออีกครั้ง หากใครมีข้อมูล เห็นอะไร สงสัยอะไรอาจจะเข้าข่ายการทุจริตสามารถส่งต่อให้รัฐบาลดำเนินการได้ แต่ขอให้มีการตรวจสอบ มีข้อมูลที่ชัดเจน หากรีบกล่าวหา หรือว่าแชร์ข้อมูลกันโดยที่ยังขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ ขาดการไตร่ตรองที่ถี่ถ้วน ก็จะเป็นความขัดแย้งเกิดขึ้นมาอีก หลายครั้งในสังคมโซเชียลมีเดียนั้น มีโอกาสที่คนดี ๆ จะถูกทำลาย ตกเป็นเหยื่อเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี วันนี้ก็ถูกโจมตีอยู่ บางครั้งเข้าใจว่าเป็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการทำให้เกิดความเข้าใจผิด ในการทำงานของรัฐบาล ก็ไม่ทราบว่าใคร แทนที่จะช่วยกันทำให้ประเทศชาติ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนาคตได้ ก็ทำลายกันทุกวัน ๆ ไป ผมก็เตือนพี่น้องประชาชน ก็อย่าไปเชื่ออะไรมากนัก สงสัยอะไรก็ถามมา

เรื่องช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs นั้น ในสัปดาห์นี้ คณะรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติโครงการ ให้ความช่วยเหลือ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Policy Loan) แก่ลูกหนี้ SMEs ใหม่ ในวงเงินรวม 15,000 ล้านบาท  และมาตรการเพิ่มวงเงินที่รัฐจะช่วยชำระค่าธรรมเนียมในปีแรก สำหรับการค้ำประกันสินเชื่อแทน SMEs ของ บสย. ทั้งสองโครงการนี้ จะช่วยลดภาระด้านเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ SMEs ให้ต้นทุนถูกลง

ธุรกิจ SMEs ที่รัฐบาลส่งเสริมและสนับสนุนก็ได้แก่โครงการ OTOP มีหลายผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอาจจะต้องมีการพัฒนา ปรับปรุง ออกแบบ การ Design ต่าง ๆ ให้เป็นที่น่าสนใจมากขึ้น น่าซื้อ น่าใช้ แล้วก็คงจะต้องมีส่วนราชการ หรือภาคเอกชนเข้าไปแนะนำให้ความรู้ สร้างห่วงโซ่ที่เป็นรายได้เพิ่มขึ้นให้กับประชาชน หลายผลิตภัณฑ์มีศักยภาพที่เพียงพอ แล้วก็สามารถนำเข้าสู่ตลาดสากลได้ วันนี้รัฐบาลก็พยายามทุกอย่างที่จะหาช่องทางช่วยเหลือ เช่น อาจจะขอความร่วมมือจากศูนย์การค้าใหญ่ ๆ ร้านสะดวกซื้อ ช่วยกันจัดหาพื้นที่จำหน่าย จัดกิจกรรม ช่วยโปรโมทสินค้า OTOP รวมไปถึงการนำสินค้า OTOP ขึ้นไปจำหน่ายบนเครื่องบินด้วย วันนี้กระทรวงคมนาคมกำลังพิจารณาอยู่

ส่วนของรัฐบาลเองนั้น เราก็จะส่งเสริมให้เกิดตลาดชุมชน ตลาดสหกรณ์ และตลาดท่องเที่ยวที่สามารถจะนำผลผลิตของตนมาวางขายในพื้นที่ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการจัดจำหน่ายสินค้า ปัญหาของเราก็คือการตลาด แล้วก็คุณภาพการควบคุมมาตรฐานต่าง ๆ เหล่านี้ ถ้าหากเราสร้างในพื้นที่ได้เราก็จะสามารถขยายผลผลิตของตนเองได้ แล้วมีคนไปซื้อในพื้นที่ ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้ดีเถอะครับ มีคนซื้อ มีคนนำไปจำหน่ายอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องพึ่งคนกลางมากนักเราก็อาจจะได้ราคาที่ดีขึ้น และพี่น้องประชาชนในชุมชนก็สามารถจะซื้อสินค้าเหล่านั้นได้ในราคาที่ถูกลง

รัฐบาลจะสนับสนุนให้เกิดตลาดกลางในทุกมุมเมือง คล้าย ๆ กับตลาดคลองผดุงกรุงเกษม หลังทำเนียบปัจจุบันเราจัดมาหลายครั้งหลายเดือนแล้ว เพื่อจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับชุมชนในเขตปริมณฑลต่าง ๆ มีทางเลือกในการซื้อสินค้าคุณภาพดี ราคาย่อมเยา ไม่ต้องเสียเวลาเข้าเมือง ลดปัญหาการจราจรอีกทางหนึ่ง ก็จะแยกไปจากตรงข้าง ๆ ทำเนียบไปทุกมุมเมืองด้วย ในอนาคต ที่กล่าวมานี้ รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทยและ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กำลังร่วมกันเตรียมการอย่างบูรณาการอยู่ ในเรื่องของการจัดจำหน่ายเหล่านี้ โดยให้ความสำคัญกับ Social Business คือการประกอบการธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งเป็นห่วงโซ่หนึ่งของ Social Enterprise ด้วย เป็นของภาคเอกชน ถ้าเราต่อเนื่องกับเกษตรกร จากประชาชนได้ในการสร้างความเข้มแข็งของตัวเองแล้ว สินค้าหรืออะไรต่าง ๆ เหลือ มีการพัฒนาแล้วก็ส่งต่อไปที่การประกอบการของภาคเอกชนด้วย เป็นธุรกิจข้ามชาติอะไรต่อไปในอนาคต เราก็จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับเกษตรกรและสหกรณ์ได้โดยตรง

กรณีเรื่องปทุมธานีโมเดล เรื่องชุมชนริมคลอง ที่เราได้เริ่มขึ้นแล้วนั้น เป็นเรื่องของการดูแลทุกข์ สุขของพี่น้องประชาชนจะเห็นว่ารัฐบาลมีความห่วงใยผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ผู้รับจ้าง ผู้ใช้แรงงาน ผู้หาเช้ากินค่ำ และข้าราชการชั้นผู้น้อย ทั้งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทหรือในเขตเมือง

สำหรับชุมชนต่าง ๆ ที่กระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ทั้งชุมชนริมคลอง ชุมชนแออัด ที่มีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม คุณภาพชีวิตไม่ดีเพียงพอ ทำให้เกิดความยากลำบาก การดำรงชีวิตของพี่น้อง ลูกหลานต่าง ๆ มากมาย ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐาน หากเราไม่แก้ไขอย่างบูรณาการ อย่างยั่งยืนจากหน่วยงานของรัฐ และความร่วมมือของพี่น้องในชุมชนเอง ปัญหาต่าง ๆ ก็จะตามมา ปัญหาต่อเนื่อง เช่น ยาเสพติด อาชญากรรม กลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ก็จะยังคงมีอยู่ต่อไป เพราะฉะนั้นผมอยากให้ท่านร่วมมือกับเราในการที่จะต้องปรับเปลี่ยน แก้ไขบ้าง จะทำให้เราต้องถูกฉุดรั้งในเรื่องของการพัฒนาประเทศในภาพรวมด้วย

เรื่องนี้ผมได้สั่งการให้กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง แล้วก็ คสช. ได้จัดทำโครงการนำร่อง “ปทุมธานี โมเดล” บริเวณคลอง 1 จำนวน 9 ชุมชน 1,060 หลังคาเรือน ในการจัดระเบียบชุมชนริมคลอง เพื่อจะแก้ปัญหาการบุกรุกคูคลองสาธารณะ ทำให้ไม่สามารถใช้มาตรการแก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญก็คือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนที่อยู่ริมคลองให้ดีขึ้น โครงการนี้เป็นการจัดหาพื้นที่สร้างที่อยู่ใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน เป็นที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ มั่นคง ไม่ผิดกฎหมาย และได้กรรมสิทธิ์ด้วยการผ่อนส่ง และหามาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ ทางด้านการเงิน ตามความเหมาะสม ได้มีการจัดตั้งองค์กรชุมชนเข้าดำเนินการ จดทะเบียนเป็นสหกรณ์เคหสถาน นอกจากนั้น จะมีการปรับภูมิทัศน์ มีสวนสาธารณะเล็ก ๆ มีตลาดชุมชนของตนเองเป็นแหล่งค้าขาย เหล่านี้เป็นเรื่องที่เราดำเนินการอยู่ก็ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนในการลงทุนแล้วก็ชุมชนหลาย ๆ ชุมชนก็มีการขานรับที่จะเข้าร่วมโครงการเหล่านี้แล้วด้วยความสมัครใจ

สำหรับแผนการพัฒนาฯ นี้จะนำไปขยายผลต่อไป ในแผน 3 ปี คือ 2558 - 2560 ในพื้นที่ 9 คลอง ได้แก่ คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองบางเขน คลองสามวา คลองลาดบัวขาว คลองบางซื่อ คลองประเวศบุรีรมย์ คลองพระโขนง และคลองพระยาราชมนตรี รวม 66 ชุมชน 9,981 หลังคาเรือน

นอกจากนี้ ผมได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้วางแผนการพัฒนาให้สอดคล้องกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และเส้นทางรถไฟต่าง ๆ ในอนาคต ให้มีการกำหนดทิศทาง การขยายตัวของเมือง และการการเกิดชุมชนใหม่ ๆ หรือการย้ายชุมชนเก่า ตามเส้นทางและพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีการพัฒนาแล้ว ไปอยู่อย่างครบวงจร ไม่กระจุกตัว และเป็นที่พึ่งพอใจของทุกคนไม่ต้องมาหางาน มาแออัดในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ ๆ ทั้งสิ้น อันนี้เป็นภาระต่อไปในอนาคตก็ค่อย ๆ ทำกันไป ก็จะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพในท้องถิ่นด้วย เป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และลดปัญหาสังคมได้อีกด้วย

สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น มีอีกหลาย ๆ โครงการของรัฐที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศไทยในปัจจุบัน เพื่อจะให้ก้าวหน้าต่อไปหลังจากที่หยุดมานาน รัฐบาลเข้าใจว่ามีคนที่จะต้องได้รับผลประทบพอสมควร ที่อาจจะต้องยอมเสียสละกันบ้าง แต่รัฐบาลก็จะดำเนินการในการสร้างความเข้าใจ สร้างความพึ่งพอใจ ในการที่จะขอความร่วมมือจากท่านแล้วก็หาแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา ตามความเหมาะสม ทุกคนต้องช่วยกัน

เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าเรามีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นแล้ว ทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง เศรษฐกิจ ธุรกิจต่าง ๆ ก็ดีขึ้น บ้านเมืองก็สวยงาม ใครไป ใครมาก็ชื่นชม ต่างชาติก็อยากจะมาเที่ยวเมืองไทย เพราะเรามีความเป็นคนไทย เป็นบ้านเมืองที่มีวัฒนธรรมอันเก่าแก่มายาวนาน ผมไม่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่จัดระเบียบให้มีความสะอาด และปราศจากสิ่งที่ทำให้เกิดความไม่เป็นปกติสุข ไม่ปลอดภัยของพี่น้องทั้งคนไทย และคนต่างประเทศที่มาพักอาศัยอยู่ ขอความร่วมมือทุกคน การก้าวเข้าไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นนั้นเราก็ต้องค่อย ๆ ทยอยดำเนินการไป ขอความร่วมมือขอความเข้าใจเท่านั้นเอง

เรื่องปัญหาภัยแล้ง ที่ผ่านมาองค์กร UNESCO ได้ออกมาชื่นชม “โครงการบริหารจัดการน้ำ” ทั้งระบบ อย่างบูรณาการของประเทศไทยในวันนี้ โดยเห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญและตระหนักถึงการวางยุทธศาสตร์เชิงรุก โดยเฉพาะการเข้าถึงทรัพยากรน้ำอย่างเท่าเทียม และเห็นว่านโยบายนี้ สามารถเป็นตัวอย่างให้กับประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนได้ เพื่อจะเตรียมการรับมือสถานการณ์ขาดแคลนน้ำของโลกในอนาคต ทั้งนี้ ความผิดปกติทางธรรมชาติ อาจจะเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งส่งผลต่อปริมาณแหล่งต้นน้ำทางธรรมชาติ หรือการผลิตก๊าซเรือนกระจก ในภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม ก็ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และสภาพลมฟ้าอากาศเสียสมดุล ส่งผลให้น้ำต้นทุนอยู่ในระดับต่ำ อยู่ที่การบริหารได้ด้วยทั้งหมด วันนี้ทำให้เกิดปัญหาภัยแล้วตามมาอีก ป่าไม้ถูกทำลาย ฝนก็ไม่ตกใต้เขื่อนบ้าง ไม่ตกบ้าง ก็ล้วนแต่เกิดจากพวกเราทุกคน คนไทยทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ โดยในภาพรวมของประเทศ รัฐบาลได้มีนโยบายลดการใช้ถุงพลาสติก ในทุกวันที่ 15 ของเดือน หรือมากกว่านั้นแล้วแต่ และการตั้งเป้าหมายที่จะลดการทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก หรือ carbon credit ลง 20 % ภายใน ค.ศ. 2020 ซึ่งเราก็ต้องการความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจจากทุกฝ่ายด้วย

ปีนี้ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง สาเหตุก็อาจจะเนื่องมาจากเรื่อง climate change  2. เรื่องของการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งส่งผลให้ “น้ำต้นทุน” ที่เรามีอยู่แล้วเดิมน้อยอยู่แล้ว น้อยลงไปอีก วันนี้ก็จะเห็นว่าทุกเขื่อน ทุกคลอง ทุกแม่น้ำน้ำก็แห้งขอดไปหมดแล้ว ปีที่แล้วพี่น้องก็เพาะปลูกพืชกันมาก ทำให้น้ำต้นทุนต่าง ๆ เหล่านั้น ก็ลดลงไปเรื่อย ๆ แล้ววันนี้พอฝนตกน้อยลงก็ยิ่งน้อยลงไปใหญ่นี่คือสิ่งที่จะต้องเป็นบทเรียน อยากให้ทุกคนใช้วิกฤตนี้เป็นโอกาส

เพราะฉะนั้นจะต้องขอความร่วมมือในการชะลอการทำนาปี งดการทำนาปรัง แล้วก็สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ ผมได้สั่งมาตั้งแต่วันแรก ที่มีความเดือดร้อนก็บอกให้พี่น้องได้สบายใจว่า เราทำทุกอย่างที่จะให้ความช่วยเหลือ สร้างความเข้าใจ และพยายามให้เกษตรกรได้พิจารณา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่อยากบังคับให้ช่วยกันมาปลูกพืชได้ใช้น้ำน้อย ทำประมง ปศุสัตว์บ้างหรือปลูกพืชที่ทดแทนการปลูกข้าวได้บ้าง ปลูกยางได้บ้าง เหล่านี้ผมเห็นหลาย ๆ อย่างที่ในโทรทัศน์ในตอนเช้า ๆ มีการเลี้ยงกบ เลี้ยงไก่งวง ส่งขายต่างประเทศ เลี้ยงสัตว์ในสวนยาง หรือเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวเป็นพื้นที่ปลูกผัก อะไรเหล่านี้ต้องช่วยตัวเองบ้าง เราก็พยายามทำในภาพรวมให้ได้ แต่ปัจจัยสำคัญก็คือน้ำต้นทุนไม่มี เพราะว่าน้อยอยู่แล้ว เดิมแล้วฝนก็ไม่ตก ตกล่าไปจะทำอย่างไร ถ้าปลูกไปแล้ว และปัญหายังมีอยู่ คือจะขาดตอนตรงกลางก็ตายอยู่ดี เพราะฉะนั้นขอชะลอไปก่อนในกรอบที่หนึ่ง เดี๋ยวรัฐจะดูแล กำลังพิจารณาในสัปดาห์หน้า

เรื่องของการเลี้ยงเพาะอย่างอื่น เพาะจิ้งหรีด เพาะสัตว์ที่รับประทานได้ เป็นโปรตีนอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ รวมความไปถึงการเลี้ยงไส้เดือนขาย จะได้ช่วยในการเพิ่มรายได้ แล้วก็ใช้ในการปรับปรุงดินให้มากขึ้น ดินเราก็ค่อนข้างจะเสียไปมากพอสมควรเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเกษตรกรและชาวบ้านที่ต้องการหารายได้เสริม แต่วันนี้กลายเป็นประสบความสำเร็จแล้ว เป็นอาชีพหลักไปแล้ว บางรายก็ลาออกจากการเป็นโปรแกรมเมอร์ มาเพาะกระบองเพชรขาย ลงทุนครั้งแรก 3,000 บาท วันนี้สามารถสร้างรายได้ในปัจจุบันกว่า 100,000 บาทต่อเดือน นี่ประเทศไทย ผืนดินไทย ถ้าขยันขันแข็งซะอย่างเดียวก็มาเอง ถ้ายังคงต่อสู้กับสิ่งที่เป็นปัญหามาตลอด แล้วก็ทำอยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลงก็มีปัญหาไปตลอด ถ้าทำแบบนี้ก็อาจจะมีอิสระกว่าด้วย ไม่ต้องไปพึ่งใคร ก็ไปดูเรื่องการตลาดเอง อะไรเอง รัฐก็พร้อมจะช่วยเหลือ

เราต้องพยายามเป็นเถ้าแก่ของตัวเอง เป็นนายตัวเอง จึงอยากให้พี่น้องนั้นได้มีการช่วยเหลือตัวเองด้วยในเบื้องต้น แล้วก็ภาพลักษณ์จะได้ง่ายในการพิจารณาเข้าไปส่งเสริมได้ ไม่อย่างนั้นทุกคนก็ลำบากหมด จะทำอย่างไร งบประมาณก็มีจำกัด แต่อย่างไรก็ตาม รัฐก็ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อปากท้องของพี่น้อง รวมทั้งในเรื่องของการจัดหาแหล่งน้ำอุปโภค-บริโภค วันนี้มีหลายแผน ทุกแผนต้องใช้เวลา ใช้งบประมาณทั้งสิ้น บางแผนการนำน้ำขึ้นมาใช้ จากแม่น้ำสาละวิน จากแม่น้ำโขง โดยใช้จากลำน้ำที่ไหลลงแม่น้ำดังกล่าวก็ยังเป็นปัญหา ในเรื่องของการใช้งบประมาณสูงมาก ก็มีแผนมาแล้วกำลังคลี่ออกมาดูทั้งหมด

ในส่วนของสิ่งที่เกี่ยวกับเรื่องการอุปโภค–บริโภค และสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันของพวกเรา ของคนไทย ก็ได้รับรายงานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ในส่วนของ “น้ำบาดาล” ใต้ผิวดินของเรานั้น ยังมีศักยภาพอีกมาก ปัจจุบันเรานำมาใช้ประโยชน์เพียง 10%  อันนี้ผมพูดถึงเฉพาะน้ำบาดาล มีน้ำใต้ดินอีกต่างหาก วันนี้ก็ได้พบปะกับผู้แทนจาก FAO (Food and Agriculture Organization of the United Nations) ก็พูดให้ฟังถึงว่าวันนี้หลาย ๆ ประเทศในโลกนี้นอกจากใช้น้ำผิวดินแล้ว มีน้ำบาดาลแล้ว ก็มีน้ำใต้ดินอีก

เพราะฉะนั้นก็ต้องให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  กระทรวงมหาดไทยไปร่วมกันพิจารณาหาข้อมูล หารายละเอียดว่าจะใช้แต่ละอย่างนี้อย่างไร เพื่อจะใช้เป็นน้ำต้นทุนแทนฝนที่ไม่ตกได้บ้างไหม เอาไปเพิ่มเติมน้ำในเขื่อนได้หรือไม่ แล้วเอาไปส่งต่อเข้าในระบบการส่งน้ำของเขตชลประทานได้หรือไม่ วันนี้คิดทุกอย่าง ปัญหามีอย่างเดียวเท่านั้น เวลาจำกัด วันนี้ทุกอย่างก็ระดมกันเข้ามาในช่วงนี้ แต่เราก็จะทำให้เต็มที่ ขอให้อดทนเล็กน้อย ไม่เป็นประโยชน์ถ้าจะสร้างความขัดแย้งกันต่อไป อย่างไรก็ทำไม่ได้ แต่ถ้าเราช่วยกันจะฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ ก็ได้เร่งดำเนินการให้มีการสำรวจ ขุดเจาะ โดยอาจจะต้องจัดลำดับความเร่งด่วน แล้วช่วยขจัดปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แก้ปัญหาอย่างหนึ่ง ไปเกิดปัญหาอีกอย่างหนึ่งเหล่านี้ เราไม่อยากทำแบบนั้น

ขอขอบคุณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้พยายามหามาตรการต่าง ๆ เพื่อจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นการนำเงินเข้าประเทศเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่รวดเร็วที่สุด และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่แก้ปัญหาการค้างาช้างและซากสัตว์ป่าในประเทศที่หมักหมม มายาวนานจนเป็นผลสำเร็จ ล่าสุดได้รับรายงานว่าเลขาธิการคณะกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ CITES ได้แสดงความชื่นชมประเทศไทยในการปรับปรุงแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาการค้างาช้างของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถออกกฎหมายควบคุมและลงโทษผู้ค้างาช้างผิดกฎหมายได้ ซึ่งจะช่วยประเทศไทยให้พ้นจากความเสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตรทางการค้าในกลุ่มสินค้าภายใต้การควบคุมของอนุสัญญา CITES อันนำรายได้มาสู่ประเทศ อาทิ กล้วยไม้ หนังจระเข้ เป็นต้น ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ทุกท่านอย่างจริงใจ ก็ขอให้ทำต่อไปเป็นกำลังใจให้ท่าน

เรื่องสุดท้าย คงจะต้องฝากความห่วงใย ส่งกำลังใจให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ทำนา ขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตรในปัจจุบันด้วย อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน มีการปลูกพืชเสริม มีการหารายได้อย่างอื่น รัฐบาลกำลังพยายามหามาตรการในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในขั้นต้น อยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่า อันนี้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติเริ่มลงโทษเราแล้ว จากการที่เราตัดไม้ทำลายป่ากันมากเกินไป ทำให้แผ่นดินขาดความชุ่มชื้น ในพื้นที่เหนือเขื่อน พื้นที่เหนือลุ่มน้ำ ทำให้ไม่เกิดเมฆฝน และฝนไม่ตกลงมาในพื้นที่เกษตรกรรม หรือพื้นที่ชลประทาน นับวันอาจจะทวีมากขึ้นทุกปี ทั้งนี้ในพื้นที่อื่น ๆ ในโลก และประเทศไทย ก็จำเป็นต้องเตรียมความพร้อม

วันนี้ต่างชาติต่างประเทศก็ตื่นตัวหมดแล้ว เรื่อง climate change เขาก็กลัวเหมือนกันว่าไม่มีน้ำใช้จะทำอย่างไร แต่เขายังโชคดีเขามีหิมะ บ้านเราไม่มี มีฝนอย่างเดียวเอง ถ้าไม่ตกก็ทำอะไรไม่ได้หมด ต้องช่วยกันรักษาป่า เราต้องเตรียมการ รองรับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เราใช้เวลามามากมายแล้วในการทำลายป่า เพราะฉะนั้นเราก็ไม่สามารถจะแก้ไขได้ในเวลาอันสั้น ถ้าขอให้ทุกคนช่วยกันปลูกในพื้นที่ต้นน้ำ หรืออพยพออกมาจากพื้นที่ต้นน้ำ ก็จะดีขึ้น ป่าอย่างไรก็ตามถ้าเราไม่ไปยุ่งกับเขามาก ๆ เดี๋ยวเขาก็โตขึ้นมาเอง แต่วันนี้ปัญหาก็คือน้ำไม่มีเข้าไปอีก ก็โตเองไม่ได้เหมือนกัน ต้องดูแล การปลูกพืช ปลูกอะไรต่าง ๆ ก็แล้วแต่ มีผลกระทบซึ่งกันและกันทั้งสิ้น

เรื่องของการนำน้ำขึ้นมา ที่ผมกล่าวไปข้างต้นแล้ว เพราะว่ามีเส้นทางน้ำฝั่งเราที่ไหลลงแม่น้ำระหว่างประเทศ ทั้งในภาคอีสาน และภาคเหนือ ก็มุ่งหวังว่าจะเอามาเติมเขื่อน เป็นโครงการที่คิดไว้หลายปีแล้ว แต่ใช้งบประมาณสูงมาก วันนี้ต้องนำมาทบทวน ต้องนำมาดูแลกันว่าจะทำได้แค่ไหนอย่างไร ในระยะที่ 1-2-3 หรือไม่ งบประมาณใช้เท่าไหร่ จะคุ้มค่าหรือเปล่ากับการลงทุน ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อจะให้เกิดการทุจริตอะไรทั้งสิ้น พูดถึงเรื่องนี้เป็นปฏิภาคโดยตรง พอทำอะไรมากก็จะต้องดูเรื่องทุจริต ก็เลยทำให้ทุกอย่างค่อนข้างจะไปได้ช้า

ผมว่าวันนี้ก็ต้องดูถึง อันแรกคือเจตนารมณ์ ความตั้งใจในการทำ ร่วมมือกัน ถ้าทุจริตเมื่อไหร่ก็ลงโทษเดี๋ยวนั้น แล้วก็เดินหน้าต่อไปให้ได้ ก็จะทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น ถ้าติดไปทุกเรื่องก็ไปไม่ได้หมด เพราะฉะนั้นเราต้องดูทั้งน้ำอุปโภค–บริโภค น้ำประปา ถ้ามีน้อยน้ำต้นทุนประปาก็ไม่มี ก็เดือดร้อนน้ำกินน้ำใช้หมด แล้วน้ำเพื่อการเกษตร น้ำในไร่นา น้ำในสวน พืชสวนต่าง ๆ ที่ปลูกผลไม้ไว้ แล้วที่สำคัญที่สุดคือการผลักดันน้ำเค็ม ที่กำลังรุกเข้ามาในแผ่นดินมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะน้ำต้นทุนน้อย ก็ไม่สามารถจะผลักน้ำเค็มออกไปได้มากนัก น้ำก็ค่อย ๆ รุกล้ำมาเรื่อย ๆ แต่ละปี ๆ วันหน้าถ้าเข้ามา  ตรงกลางประเทศ คราวนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ดินก็เสียอะไรก็เสียหมด วันหน้าก็เป็นทะเลทราย เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ความเดือดร้อนทั้งหมดผมเข้าใจ ถ้าเป็นไปได้ก็ส่งตัวแทนไป ไปพบผู้ว่าราชการจังหวัด ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรม ทุกเรื่อง อย่ามาใช้ความกดดันก็แล้วกัน ดีที่สุด ผมจะได้ไปดูว่าตรงไหนเป็นอย่างไร วันนี้กำลังไปเก็บข้อมูลว่าตรงนั้นเท่าไหร่ ตรงนี้เท่าไหร่ เดือดร้อนหรือไม่ ก็ต้องแบ่งเบา แบ่งเฉลี่ย แบ่งปันกันบ้าง ถ้าทุกคนจะใช้กันหมด รัฐบาลก็ต้องไปหาน้ำมาให้ หรือหาเงินมาให้ แล้วจะแก้กันถึงเมื่อไหร่แบบนี้ รัฐบาลวันนี้ก็ใช้เงินไปมากพอสมควรในเรื่องการดูแลพวกท่านมา หลาย ๆ เรื่องก็ต้องมีการลงทุนใหม่บ้าง อะไรบ้าง ไม่อย่างนั้นวันหน้าก็เดือดร้อนทุกเรื่องเลย

ผมฝากขอความร่วมมือกับท่านด้วย พี่น้องเกษตรกรทุกคน ผมรักท่านอยู่แล้ว ห่วงใยท่านอยู่แล้ว ที่เข้ามายืนทุกวันนี้ก็เพื่อท่าน เพราะฉะนั้นอย่ามาโต้แย้งหรือมาขัดแย้งอะไรกับผมเลย ไม่เป็นประโยชน์ รัฐบาลก็พยายามจะแก้ไขปัญหาในภาพรวม รอสัปดาห์หน้าอีกที ช่วยกันอดทน ช่วยเหลือตนเอง ครั้งที่แล้วก็หลายจังหวัดหลายอำเภอ หลายตำบล หมู่บ้าน หลายพื้นที่ก็ช่วยเหลือตนเอง ผมฟังในการพบปะกับผู้นำชุมชนหรือว่าศูนย์การเกษตรต่าง ๆ ที่มาสาธิตให้ผมดู มารายงานให้ผมก็บอกว่าหลายพื้นที่ เจ้าของที่เคยปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก เช่น ปลูกข้าว วันนี้ก็เปลี่ยนไปปลูกอย่างอื่น ก็ได้รายได้มากกว่าปลูกข้าวอีก ลองไปทบทวนดูว่าจะทำอย่างไร

ผมถึงบอกว่าวันนี้ฝนล่าช้าไป ก็ไม่เป็นไร วันนี้ก็ไปขุดดักไว้ก่อน ถ้าโชคดีฝนก็ตกมา ก็จะได้มีน้ำเก็บไว้แล้วก็ทำอย่างอื่นต่อ ปลูกผัก ปลูกอะไรที่ได้รายได้มากขึ้นก็แล้วกัน ถ้าไม่ทำอะไรเลยแล้วนั่งรอการช่วยเหลืออย่างเดียวก็เป็นอยู่แบบนี้ ให้ไปเดี๋ยวก็หมดอีก ใช่ไหม ก็ให้ท่านไปบรรเทาความเดือดร้อน อีกส่วนหนึ่งท่านต้องช่วยตัวท่านเอง

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องไปด้วยกัน เราก็พยายามเต็มที่ที่จะสร้างแหล่งเก็บกักน้ำเพิ่มเติม วันนี้ก็โชคร้ายเล็กน้อย วันนี้เราสร้างไปมาก ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ หลายพันโครงการ ปรากฏว่าฝนมาล่าช้าเข้ามาอีกจะทำอย่างไร เดือดร้อนเกษตรกร ไม่ใช่ว่าท่านเดือดร้อนคนเดียว รัฐบาลก็เดือดร้อนกับท่านด้วย ร้อนใจ เป็นห่วง รู้ว่าลำบาก ก็ฝากใจไปให้ท่านทุกคน ทุกครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง ต้องช่วยกัน เพราะบ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้า ถึงแม้ว่าจะลำบากยากเข็ญอย่างไรก็ตาม เราขัดแย้งอะไรกันไม่ได้อีกแล้ว ก็ขอร้องท่านเท่านั้นเอง เราก็จะพยายามทำอย่างเต็มที่ ที่จะให้ท่านมีอนาคตที่ยั่งยืน ขอบคุณครับ สวัสดีครับ

 

---------------------------

          ที่มา : http://www.thaigov.go.th/