พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558

วันที่นำเข้าข้อมูล 22 พ.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,058 view
รายการคืนความสุขให้คนในชาติ
 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 เวลา 20.15 น.

สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน

           สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ทุกคนมีความปิติยินดี ที่ได้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ แปรพระราชฐาน ไปประทับที่พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่พวกเรายินดีทุกคน ทั้งประเทศเห็นภาพที่พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงขึ้น และได้ทรงออกทอดพระเนตรในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ได้เสด็จผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเสด็จถึงแล้วก็ได้เสด็จเยี่ยมในบริเวณพื้นที่ในวังไกลกังวลด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่ผมได้รับทราบมาจากคณะผู้ติดตาม คณะแพทย์ต่าง ๆ ก็ได้ให้ข้อมูลว่าทรงแข็งแรงดี ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ระหว่างที่ท่านไปก็มีการโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนโดยทั่วไป ประชาชนก็ดีใจตลอดเส้นทางที่ผ่าน มีการถ่ายทอดในทุกจุดที่ผ่านไป   

          ในโอกาสนี้ ผมจะถือโอกาสอยากให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้น้อมนำพระกระแสรับสั่ง ที่กล่าวว่า “รู้ รัก สามัคคี” ซึ่งเป็น 3 คำที่มีความหมายในการที่จะร่วมกันนำพาประเทศชาติไปสู่ความสุขสงบ “รู้” ปัญหาที่แท้จริง หาทางออก อย่านิ่งเฉย ไม่มีการกระทำอะไรเลย และก็คอยตำหนิ และคอยบ่นว่าอยู่อย่างเดียว ไม่ได้ ต้องรู้และช่วยราชการ ช่วยรัฐบาลในการทำหน้าที่ดังกล่าวเหล่านั้นให้ระงับและยุติปัญหาต่าง ๆ ให้ได้ “รัก” ก็คือให้ความ ปรารถนาดีให้กัน มีความเมตตา เผื่อแพร่แบ่งปันช่วยเหลือสังคม ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะรักไปทำอะไร นำความรักมาให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติบ้านเมืองด้วย  ในส่วนของ “สามัคคี” สามัคคีเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา เป็นบ่อเกิดแห่งการแก้ปัญหาในลักษณะที่เป็นกลุ่ม เป็นหมู่ เป็นเหล่า ถ้าเรารวมความรัก ความสามัคคี ไว้ได้ด้วยกัน ก็จะนำความเข้มแข็งมาสู่ประเทศชาติเราอย่างยั่งยืน

          โครงการบริหารจัดการน้ำ

          ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นวันพืชมงคล มีพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทั้งนี้เป็นการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกรของชาติ เป็นพิธีที่มีมาแต่โบราณกาล ปีนี้พระโคเลือกกินหญ้าและงา คำพยากรณ์ว่า ปีนี้จะอุดมสมบูรณ์ดี น้ำท่าจะบริบูรณ์พอควร เป็นข่าวที่น่ายินดี

          อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลได้มีการประชุมและติดตามความก้าวหน้า ในเรื่องของการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล นอกเหนือจากแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำปี 2558-2559 ที่กำลังเร่งดำเนินการ ได้สั่งการว่าให้เร่งดำเนินการในช่วงแรกนี้ให้ได้โดยเร็ว นอกจากในเรื่องของการขุด การจัดหาแหล่งน้ำ อุปโภคบริโภคน้ำ เพื่อการเกษตร และเพิ่มในเรื่องของการส่งน้ำ การจัดทำแหล่งเก็บน้ำ ทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ตามงบประมาณที่มีอยู่ ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จให้ทันกับการที่จะรับน้ำฝนที่ตกมาในฤดูฝนอันใกล้นี้ 

          เราจำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพในการรองรับน้ำให้มากขึ้น ได้มีการพิจารณาเรื่องพลุ หรือที่เป็นพื้นที่ต่ำ ที่เราสามารถขยายเป็นทะเลสาบบ้างได้หรือไม่ ผมต้องการให้มีที่เก็บน้ำได้มากขึ้นในหลาย ๆ แห่งทั้งประเทศ แต่ทั้งนี้ต้องไม่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ รวมทั้งให้เหมาะสมกับปริมาณของน้ำฝนที่ตกมาในแต่ละพื้นที่ มีสถิติอยู่แล้ว ก็ขอความร่วมมือ อย่ารอรัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียวประชาชนก็คงต้องช่วยกันด้วย ถ้าท่านสามารถขุดแหล่งน้ำขนาดเล็กได้ ทำบ่อน้ำบาดาลเองได้ ทำแหล่งน้ำในไร่นาได้บ้างก็จะเป็นการช่วยตัวเองด้วยอีกทางหนึ่ง ขอให้เข้าใจว่านโยบายของรัฐบาลขณะนี้ที่เราทำได้ระยะแรกก็คือว่า ทำยังอย่างไรน้ำที่ท่วมซ้ำซากจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ถ้าปริมาณฝนปกติจะต้องไม่ท่วมอีก ถ้าเป็นฝนที่เกินหรือฝนหลงฤดูอะไรเหล่านี้ แล้วมากจนเกินขีดความสามารถในการรับน้ำ เป็นเรื่องธรรมดา

          อีกเรื่องหนึ่งคือ กรณีพื้นที่แล้งซ้ำซาก 3,000 กว่าตำบล ต้องหมดไป หมดไปได้อย่าไร หมดไปก็คือวิธีการที่กล่าวมาแล้วทั้งสิ้น การขุดแหล่งน้ำ การจัดหาคลองส่งน้ำหรือวิธีส่งน้ำอื่น ๆ เรามีพื้นที่ทั้งประเทศ ประมาณ 320 ล้านไร่ แล้วคราวนี้เป็นพื้นที่การเกษตร 141 ล้านไร่ เพราะฉะนั้นก็คิดเป็น 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นการเกษตรสำคัญที่สุด ทำอย่างไรพื้นที่ชลประทานขณะนี้ทำได้เพียง 30% กว่าเท่านั้นเอง เราทำได้สูงสุดคือ 40% ของ 141 ล้านไร่ ที่ผมพูดเมื่อสักครู่นี้ อีก 10% เท่านั้นเอง กำลังทำอยู่ ขณะนี้ถ้านอกจาก 40% ของ 141  ล้านไร่ จะทำอย่างไร ก็ต้องไปขยายแหล่งน้ำ กระจัดกระจายไปทั่ว ๆ ไป แล้วก็ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชให้เหมาะสม ปรับเปลี่ยนในเรื่องของการ “โซนนิ่ง”

          วันนี้ก็ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ผมอยากให้ประชาชนรับทราบและรับฟัง อย่างต่อเนื่องเราไม่เคยนิ่งนอนใจ เห็นใจจริง ๆ พี่น้องเกษตรกรต่าง ๆ วันนี้ปัญหาหลัก ๆ ก็คือในเรื่องของการขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แล้วก็เพื่อการเกษตร แล้วก็ในเรื่องของยาเสพติด ที่มีการแพร่ขยายมาในทุกพื้นที่ ผมรู้ว่าพ่อแม่พี่น้องก็เดือดร้อน ต้องช่วยกันเฝ้าระวังด้วย แล้วก็ลูก ๆ หลาน ๆ ก็อย่าไปติดเลย ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น

                    ที่ผ่านมาผมได้ให้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าไปดูแล วันนี้ขอทานก็เริ่มลดลงตามลำดับ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะนำเขาไปไหน จะนำเขากลับคืนไปที่ไหนก็ไม่ได้ บางคนญาติพี่น้องก็ไม่มีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องไปหาพื้นที่ให้เขาอยู่ ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาทั้งระบบ ก็คือใช้แบบ “ธัญบุรีโมเดล”  ซึ่งก็เป็นสถานที่ ๆ ให้บรรดาขอทานต่าง ๆ ที่เรารับมา ไม่ได้ไปควบคุม ไม่ได้ไปจับกุมไปนำมาอยู่ในพื้นที่ ที่ฝึกอาชีพ เพื่อให้มีรายได้แล้วก็กลับคืนสู่สังคมให้ได้ในอนาคต ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ในช่วงนี้ก็คงต้องดูแลเขาไปก่อนเพราะว่าเขาอยู่ในสภาพนั้นมาเป็นเวลานาน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงทีเดียวไม่ได้ สลับซับซ้อนหลายอย่างด้วยกัน ทั้งค้ามนุษย์ ขอทาน

          วันนี้ก็โยงไปสู่เรื่องของการประมงผิดกฎหมายด้วย แรงงานเถื่อน โรฮีนจา แรงงานทาส เหล่านี้เป็นเป้าหมายที่เราจะต้องแก้ไขให้ได้โดยเร็ว เพราะอยู่ในมาตรการที่ต่างชาติ หรือองค์กรระหว่าง ประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง มีหลายส่วนด้วยกันทั้งผู้ประกอบการ ทั้งนายทุน นายหน้า ผู้หลอกลวงต่าง ๆ มากมายแล้วก็มีข้าราชการของรัฐไปเกี่ยวข้องด้วย ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ซึ่งบรรดาข้าราชการเหล่านี้ เมื่อมีหลักฐานตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษทั้งวินัย และอาญา ไม่มีการยกเว้น

          สำหรับเหยื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น ก็ต้องมีมาตรการเยียวยา ว่าจะดูแลเขาอย่างไรเป็นคนไทยใช่หรือไม่ หรือคนต่างชาติ ก็ต้องให้เขามีความเข้มแข็งก่อน ตรวจโรค ตรวจอะไรต่าง ๆ ให้เรียบร้อย แล้วก็ส่งกลับคืนต้นทางของเขา ผมได้สั่งการทุกพื้นที่ให้มีการเอ็กซเรย์พื้นที่ต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เราทำได้ระยะแรกเพียงเท่านั้น แล้วให้เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ เขาดำเนินการสอบสวนแล้วก็หาผู้กระทำความผิด แล้วดูแลเหยื่อ วันนี้ก็มีเหยื่อมากมายที่ออกมาจากในป่าบ้าง จากในทะเลบ้าง ต้องเข้าใจว่าปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติเรามาเป็นเวลานาน เราต้องแก้ทั้งระบบให้ได้ วันนี้ผมเข้ามาอยู่ตรงนี้แล้ว ผมก็พยายามที่จะใช้ประสบการณ์ต่าง ๆ ในฐานะที่เคยเป็นฝ่ายความมั่นคงมาก่อน ได้นำสู่การปฏิบัติให้ได้โดยเร็ว ที่ผ่านมาบางครั้งเข้าใจคนละทางกัน ฝ่ายความมั่นคงก็มองในแง่ของความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลอาจจะมองในแง่ของสิทธิมนุษยชนอย่างเดียว วันนี้เราต้องมองทั้ง 2 อย่าง ประกอบกัน ว่าทำอย่างไรเราจะแก้ปัญหาได้ที่ต้นทาง กลางทางคือเรา ปลายทางคือประเทศที่ 3 แล้วเราก็ไม่อยากที่จะตั้งศูนย์อพยพ ศูนย์พักพิงอะไรอีกแล้ว ถ้าจะมีการตั้งก็คือเป็นพื้นที่ในการควบคุมตัวเป็นการชั่วคราว ในระหว่างที่ดำเนินคดีในเรื่องของการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเท่านั้น คงไม่ใช่เป็นเรื่องของการไปจับติดคุกอะไรต่าง ๆ ในขณะนี้ไม่ได้ แต่คราวนี้ปริมาณมากขึ้นทุกที ๆ จะเห็นได้ว่าเดิมนี่อยู่ที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) บ้าง มีที่ควบคุมจำกัด วันนี้เข้ามาเป็น 100 คน เป็น 1,000 คน แบบนี้ก็เกิดปัญหา การดูแลเขาก็ไม่ทั่วถึง เพราะฉะนั้นอาจจะถูกต่างประเทศเข้ามาว่ากล่าวอีก ต้องระมัดระวังให้เต็มที่

          ในส่วนของส่วนกลาง ขณะนี้ก็เร่งรัดทุกที่ ทั้งส่วนกลางส่วนท้องถิ่น ในส่วนของรัฐบาลก็ดำเนินนโยบาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในประเทศก็ให้ฝ่ายความมั่นคงเข้าดูแลว่าจะทำกันอย่างไรบ้าง หน่วยงานไหนบ้าง ใช้มาตร 44 บ้าง ใช้กฎหมายปกติบ้าง ในการที่ทำให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินการให้เร็วที่สุด ให้ได้ผล ในส่วนของต่างประเทศ ก็ให้คณะทำงาน คณะที่รับผิดชอบการกำกับดูแล ซึ่งมีท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น เข้าไปดูแล และกำหนดเป้าหมาย กำหนดวิธีการต่าง ๆ ถ้าเป็นเรื่องของต่างประเทศก็ส่งให้ต่างประเทศไปดำเนินการ ถ้าในประเทศก็ดำเนินการโดยฝ่ายข้าราชการทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นทำงานร่วมกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชัดเจน

          ในส่วนของผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมก่อน ถ้าหนักหนาสาหัสก็ต้องปรับย้ายออกจากพื้นที่ไปก่อน แล้วสอบสวน ถ้าสอบสวนว่าผิดก็โดนทำโทษทางวินัย หรือทางอาญา ซึ่งให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว  ถ้าใครไม่ได้ทำก็อย่าเดือดร้อน ก็จะต้องนำเรื่องเหล่านี้มาแก้ไขให้ได้โดยเร็ว

          เรื่องของเหยื่อ อันนี้เป็นสิ่งสำคัญก็ต้องดูแลเหยื่อ จะดูแลอย่างไร ผมบอกแล้วถ้าเก็บไว้นาน อยู่ไปนานไม่มีคนมารับกลับไป ก็คือปัญหาอีก แต่เราบอกว่าเราจะดูแลเขาด้วยสิทธิมนุษยชน แล้วจะอย่างไร ถึงเมื่อไร นานแค่ไหน งบประมาณอย่างไร เพราะวันนี้งบประมาณของเราเองก็จำกัดในการดูแลคนไทย ก็ยังไม่ค่อยจะพอเลย แล้วถ้าต้องดูแลคนเหล่านี้ ใช่หรือไม่ แล้วเราจะทำอย่างไร ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ผมเห็นใจ เราคนไทยอยู่แล้ว เป็นชาวพุทธอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็เห็นใจ ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใดก็เป็นมนุษย์ แต่ทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบกับบ้านเมืองเราด้วยในเรื่องของการดูแล ใช้จ่ายงบประมาณ ทุกประเทศก็ไม่ค่อยจะมีใครรับไป รับกลับ เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องแก้ปัญหาให้ได้โดยอาศัยความร่วมมือ

          ระยะเวลาอันใกล้นี้ กระทรวงต่างประเทศกำลังจะเชิญประเทศที่เกี่ยวข้อง และผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง ในรอบ ๆ บ้านเรา แล้วก็ประเทศที่เป็นแบบอย่างในการแก้ปัญหาเหล่านี้มาพูดคุยหารือกันประชุมกัน เพื่อหาทางออกอย่างเป็นที่น่าพึงพอใจทุกฝ่าย ก็อยากให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลวันนี้ว่าเราตั้งใจจริง ในการแก้ปัญหาทุกปัญหา โดยเฉพาะปัญหาโรฮีนจา อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องแก้โดยเร็วด้วย

          เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผมได้ไปวันเกษตรกร ช่วงเช้าก็ไปงานจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ตอนเย็นค่ำก็ไปงานของวันเกษตรกร ได้มีโอกาสพบเกษตรกรจำนวนมาก ที่ได้รับรางวัลมาจากทุกจังหวัด ทุกภาคส่วน ผมได้มีโอกาสกล่าวปาถกฐาพิเศษ  โดยเน้นย้ำแนวทางของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือเกษตรกรทุกประเภท ให้เกิดความเข้มแข็งให้มากขึ้น เพราะนั้นเราต้องร่วมมือกันตั้งแต่ระดับชุมชน ภูมิภาค ไปถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษ ไปถึงชายแดน ไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน แล้วไปสู่ประชาคมโลก เพราะฉะนั้นเราต้องเริ่มต้นจากเล็กด้วย ก็คือเริ่มจากเกษตรกรเอง ซึ่งเคยเป็นผู้ผลิตอย่างเดียว วันนี้ต้องเป็นผู้ที่สามารถประกอบการค้าได้ด้วย สร้างความเข้มแข็งของตัวเอง ในการที่จะปรับไปสู่นอกจากผลิตแล้วยังแปรรูปเองได้ เพื่อจะเข้าสู่การแข่งขันแล้วก็การจำหน่ายภายในประเทศ แล้วก็ขยายไปต่างประเทศในโอกาสต่อไป ก็เราอย่าไปบ่นไปว่าใครเลย เราต้องดูแลของเราให้เข้มแข็งก่อน สหกรณ์เป็นหลักมีตั้ง 7 สหกรณ์ 7 แบบ ทั้ง 7 แบบสหกรณ์ก็ต้องมีคุณภาพ แล้วทำให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง วันนี้เราได้ให้โครงการประมาณ 3 พันกว่าล้าน 3 พันตำบล เมื่อวานผมได้สอบถามกับเกษตรกรเขามีความพึงพอใจ เขาบอกแนวคิดต่าง ๆ เหล่านี้ถูกทางแล้ว ก็อยากให้รัฐบาลสนับสนุนส่งเสริมไป ก็อย่าไปฟังข้อมูลต่าง ๆ ที่บิดเบือน    

          วันนี้เราสร้างความเข้มแข็ง โดยให้สหกรณ์สามารถที่จะเรียนรู้ ที่จะดูแลซึ่งกันและกัน ปราชญ์ชาวบ้าน ทุกอย่างร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ การจัดตั้งศูนย์วิชาชีพทางด้านการเกษตร วันนี้เรามีตั้ง 800 กว่าศูนย์ ขณะนี้เข้าใจว่าสามารถพึ่งตนเองได้แล้ว โดยเราไปตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของเกษตรกรเอง ไม่ต้องไปลงแรงลงทุนอะไรมากมาย ไปศึกษาแบบอย่างที่เขาทำได้แล้วได้ผล เมื่อวานใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ได้ให้โอกาสเขา เพราะโอกาสที่ผมจะเจอเขาค่อนข้างยาก ทุกจังหวัดเขาอยากให้ผมไปเยี่ยมเยือน ผมคิดว่าถ้ามีเวลาพอผมก็คงจะได้มีโอกาสไป ผมรู้จริง ๆ ว่าเขาลำบาก ลำบากทั้งการครองชีพ ลำบากทั้งการดูแลเลี้ยงลูกหลาน อนาคตไม่มีมีแต่หนี้สิน วันนี้หลาย ๆ ส่วน เขาพูดกับผมเองว่าเขาดีขึ้น จากนโยบายของรัฐบาลนี้ที่ผ่านมา ใครที่ยังไม่เข้าใจก็กรุณาเข้าไปสอบถามที่ศูนย์ต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่รัฐ บางเจ้าหน้าที่ก็อาจจะเข้าใจง่าย บางเจ้าหน้าที่อาจะยังไม่เข้าใจ อันนี้ก็ถามมาได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมได้ก็แล้วกัน ถ้าท่านมีปัญหาในเรื่องเหล่านี้

          ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ ให้กำลังใจในการสร้างความเข้มแข็ง เกี่ยวกับเรื่องการเกษตร มีหลาย ๆ ชุด หลาย ๆ พวก ซึ่งจะต้องดูแล เมื่อวานนี้ได้เห็นในเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการปลูกพืช มีการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ในช่วงที่ไม่สามรรถจะทำนาได้ เช่น ปลูกถั่วเขียว ปลูกพืชที่มีรายได้ดี ปลูกผัก ปลูก อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ หลาย ๆ อย่างมีความก้าวหน้าตามลำดับ ก็ขอให้ไปดูกันบ้าง ถ้าจะปลูกข้าวอย่างเดียว ปลูกอ้อยกันอย่างเดียว ปลูกยางอย่างเดียว เป็นพืชเชิงเดี่ยว ใช้น้ำก็มาก บางอัน แล้วก็ราคาก็ตก ทำไมเราไม่ไปปรับเปลี่ยนเป็นขายอย่างอื่นบ้าง แล้วก็พืชใดราคาตกแล้วปลูกให้ลดลง ราคาจะได้เพิ่มขึ้น ก็ปลูกไว้กินไว้ใช้บ้าง เมล็ดพันธุ์พืช ก็หลังจากที่ในส่วนของกรมการข้าวเขาผลิตออกมาก็ไปขยายพันธุ์ในสหกรณ์เมล็ดพันธ์พืชได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องไปซื้อ จากบริษัทต่าง ๆ เขามากนัก จะได้ไม่มีผลกระทบซึ่งกันและกัน

          เรื่องปุ๋ย เมื่อวานได้มีการผลิตปุ๋ยทั้งเคมี ในส่วนที่เหมาะสมกับพื้นที่ยังจำเป็นอยู่ก็ต้องทำเอง อย่าให้มาใช้อะไรที่แรงจนเกินไปนัก แล้วเพิ่มปริมาณการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้มากขึ้น ก็มีทั้งผลิตเอง ต้นทุนน้อย หรือไม่ก็ตั้งสหกรณ์ปุ๋ยขึ้นมาแล้วก็ทำขาย แจกจ่าย ๆ กันเอง ก็จะลดต้นทุนการผลิตไปได้

        หลายเรื่องที่แก้ไขอยู่ในขณะนี้ คือกรอบหน้าผมกำลังมีนโยบายให้กระทรวงเกษตรและสหกรห์ กระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการจัดหาเครื่องจักร เครื่องไม้ เครื่องมือ ที่จำเป็น อาทิ เครื่องเกี่ยว แล้วก็เครื่องอบ เครื่องที่ใช้เกี่ยวกับเรื่องการสีข้าวในทำนองนี้ หลาย ๆ เรื่องอาจจะไปเก็บไว้ที่ไหนซักแห่งหนึ่ง แล้วก็ไปดูแลในพื้นที่ที่เร่งด่วนก่อน ไล่ลำดับไป เราจะได้ใช้ราคาในการรับจ้างในการไถ เพื่อที่จะได้ลดได้อย่างจริงจัง เรื่องต้นทุนการผลิต ในเรื่องของปุ๋ย ถ้าเราลดเรื่องของการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งแพง ใช้ให้น้อยลงแล้วไปใช้ปุ๋ยผลิตเองก็จะลดต้นทุนไปได้อีก 

          เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือ เรื่องของการเช่าที่ดิน ผมทราบปัญหาว่าขณะนี้ หลายเกษตรกรไม่สามารถจะกำหนดราคาของตัวเองได้เลย การกำหนดราคาไม่ใช่เป็นปี ๆ ด้วย ตอนนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ทำสัญญากัน ต้องไปง้อนายทุนเขา เจ้าของที่ทางเขา สำหรับนายทุนเขาเจ้าของที่เขาก็ไม่อยากให้เช่า ถ้าเช่าแล้วเวลาจะต้องออกเขาไม่ออก วันนี้เราต้องไปทำกฎหมายออกมาให้ได้ ว่าทำอย่างไร ผู้ให้เช่าเขาจะสบายใจ ผู้ไปเช่าก็ได้รับค่าเช่า ได้รับเกณฑ์ค่าเช่าให้เป็นธรรม ไม่ใช่แพงจนเกินเหตุ บวกค่าเช่า บวกค่าปุ๋ย บวกค่าเมล็ดพันธุ์พืชไปแล้วตกไป 4-6พัน ขายได้ 7,000 บาท จะไปอยู่ได้อย่างไร ต้องดูทั้งระบบ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ต้องช่วยกันดูแล ฝากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นด้วย ช่วยกันไปดูแลด้วย เป็นประชาชนของท่านเองทั้งสิ้น ท่านอย่ามามองเรื่องงบประมาณกันอย่างเดียว ท่านมองว่าจะทำอย่างไร แล้วท่านเป็นคนเชื่อมต่อกับส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคก่อนได้หรือไม่ในขณะนี้ เพราะว่าเราต้องเข้มแข็งด้วยกัน ทั้งหมดก่อน ถ้าประชาชนเขาเข้มแข็ง อปท. ก็จะมีรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ เก็บมาเพื่อการพัฒนา วันนี้ถ้าเกษตรกรเขาไม่เข้มแข็ง ท่านก็เก็บอะไรเขาไม่ได้สักอย่าง ก็รั่วไหลไปโน่น ไปนี่หมด อยากให้ช่วยกัน

          เรื่องของไฟฟ้า ในบางพื้นที่มีปัญหา ไม่มีระบบสายส่ง ไปถึงพื้นที่ดังกล่าว แต่พื้นที่นั้นทำการเกษตรก็มีการเตรียมการให้เป็นการเกษตรสมัยใหม่ ยุคใหม่ ด้วยการใช้น้ำหยดในการปลูกพืช ถ้าไม่มีไฟฟ้าก็หยดไม่ได้ ไม่รู้จะนำน้ำจะมาอย่างไร ผมก็ได้สั่งการไปแล้ววันนี้ คณะกรรมการพลังงานก็สั่งไป ขอให้ไปหาวิธีการใช้พลังงานทดแทนได้หรือไม่ ในพื้นที่ที่ไม่มีสายส่งไฟฟ้า แล้วก็ไปดูแลสหกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ต้องไปด้วยกัน ทั้งเครื่องมือ เครื่องจักร อะไรต่าง ๆ หรือการให้ความรู้  ศูนย์การเกษตรต่าง ๆ ที่ให้คำปรึกษา กองทุนต่าง ๆ และในเรื่องของไฟฟ้า ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถมีไฟฟ้าใช้ได้ ตั้งแต่ในเรื่องของปรับให้ใช้น้ำให้น้อย ก็ต้องใช้การใช้น้ำหยด แล้วอีกแบบคือการต้องไปทำแหล่งน้ำในพื้นที่ของตัวเอง ก็ต้องทำทั้ง 2 อย่าง ทั้งไฟฟ้าและทั้งแหล่งน้ำตัวเองด้วย ก็คือการเจาะน้ำบาดาล ต้องทำทั้งระบบ ต้องช่วยกัน ถ้ารอรัฐอย่างเดียวไม่มีทาง ไม่มีทางสำเร็จ เพราะขณะนี้ก็ทำไป 30% ตลอดระยะเวลากี่ปีมาแล้ว

          ในช่วงที่ผ่านมากำลังจะทำให้ได้อีก 10% ก็เป็นจาก 30% เป็น 40% ยังไม่เสร็จเลย 40% ของ 100% ทำได้แค่นั้น แล้วเกินจาก 40% ก็ไม่ได้เพราะไม่มีน้ำต้นทุนอีกแล้ว เพราะฉะนั้นจะเหลืออีก 60% ต้องหาวิธีการอย่างอื่นแล้ว ว่าจะปลูกอะไรกันอย่างไร หรือใช้น้ำให้น้อยลงอย่างไร ไปหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมได้ที่ไหน อะไรทำนองนี้ ก็ลำบากต้องเข้าใจด้วยพี่น้อง

          เมื่อวันก่อน ผมดีใจคุยกับเขาอะไรกับเขา เขารู้สึกว่าเขาเข้าใจมากขึ้น เขาดีใจ ที่ผ่านมาเขาบอกว่าไม่มีใครบอกเขาแบบนี้ เขาก็ฟังผมบ้าง อ่านอะไรบ้าง แล้ววันนี้ผมคิดว่าพี่น้องเขาสนใจ แล้วก็เขาดูแลกันเอง น่าชื่นชม หลายผู้นำสหกรณ์ หลายผู้นำชุมชนต่าง ๆ เหล่านั้น จบปริญญามาก็มี จบ วิศวะฯ ก็มี ไปทำเกษตรหมดแล้วตอนนี้ แล้วไปดูแลคนจนต่อไป ๆ พี่จูงน้อง แล้วตัวเองก็โตขึ้นมาเป็นการแปรรูป แล้วที่เหลือก็เป็นผู้ผลิต ก็จะต่อห่วงโซ่เหล่านี้ขึ้นมา เหล่านี้ก็จะสร้างความเข้มแข็งต่อไปที่จะไปขาย หรือไปการตลาด ที่ไปแข่งขันกับบริษัทขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ อะไรต่อไปในอนาคตก็ว่าไป บ้านเราเป็นประเทศที่เสรีในเรื่องของการค้า    

          เรื่องของการให้ความรู้กับประชาชน และเกษตรกร ซึ่งความรู้มีหลายอย่าง ความรู้ก็คือความรู้พื้นฐาน ในเรื่องของการทำงานในระบบราชการ ความรู้ในอาชีพของแต่ละอาชีพ แล้วก็ความทันสมัย เทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งพี่น้องทุกคนต้องสนใจแล้วติดตาม ไม่อย่างนั้นเราจะตามเขาไม่ทัน ใครสนใจเขาก็ไปก่อน ใครไม่สนใจ ก็ไม่รู้จะไปอย่างไร ก็ยังคงอยู่ที่เดิมหรือไม่ก็ถอยหลังไปเรื่อย ๆ แล้วเราก็ลำบาก ลูกหลานก็ลำบากไปด้วย

          สิ่งประเด็นสำคัญที่ผมบอกไปก็คือว่า การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ สำคัญจริง ๆ ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกษตร ต้องระมัดระวังในเรื่องของการใช้จ่ายเงินให้มาก การทำบัญชีครัวเรือน ลูกก็ต้องดูว่าพ่อแม่เขาทำบัญชีว่าอย่างไร ทำไปเถอะถึงแม้จะรู้สึกว่าทำไปแล้ว ก็มีแต่ตัวหนี้ ก็ไม่มีรายได้จากไหนมา ท่านทำไปแล้วท่านจะรู้เองว่าท่านใช้ส่วนไหนที่เกินไป อย่างน้อยพ่อแม่ก็ให้ลูกรู้ว่าต่อไปนี้ลูกก็อย่ามาขอโทรศัพท์ใหม่ ขออะไรใหม่มากนักได้ไหม พ่อก็ต้องไปกู้เงินเขามา กว่าจะได้เงินเหล่านี้มา ลงทุนเท่าไร นาต้องไปกู้ใครเขามาบ้างเหล่านี้ ผมว่าในครอบครัวเขาต้องเริ่ม ความอบอุ่นในครอบครัว ต้องมีเหตุมีผลซึ่งกันและกัน ถ้าพ่อแม่มีเหตุผลกับลูก ลูกก็จะมีเหตุผลกับเพื่อน เพราะฉะนั้นทุกอย่างเป็นสถาบันทั้งสิ้นที่จะต้องมีความอบอุ่นในระหว่างกันด้วย เชื่อมโยงจากบ้านไปโรงเรียน แล้วก็ต่อไปยังสังคม ไปประเทศชาติ  

          เรื่องการดูงานต่างประเทศ ผมได้สั่งการไปแล้ว ให้หางบประมาณในการที่จะพาเกษตรกรในทุกจังหวัดไปในทุกกลุ่มงาน ในทุกกลุ่มเกษตรกรทยอยไปดูงานต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ อันนี้ก็ขอให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คือนำคนที่ไม่เคยไปต่างประเทศ นำคนที่มีศักยภาพในการที่จะพัฒนาหรือมาขยายต่อได้ไป เพื่อจะมาเผยแพร่ ไปดูว่าการตลาด การผลิต การตลาด การค้าอะไรเขาเป็นอย่างไร จะได้ไป กลับมาบ้านเราจะได้เห็น บ้านเรามีปัญหาอย่างเดียวก็คือ พูดก็ไม่ค่อยฟัง ให้ดูจากทีวี ก็ไม่อยากดู เพราะฉะนั้นวิธีสุดท้ายแล้ว คือหาทางให้ไปดูของจริงเขาแล้วกัน ถ้าย้อนกลับมาก็คือที่เขาเจริญวันนี้ได้ เขาได้มาดูบ้านเราก่อน จำได้ไหมผมเคยบอกตั้งแต่แรก ๆ แล้ว เขาเคยมาดูประเทศเราตั้งแต่แรก โครงการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันนี้เขาไปไหนแล้วไม่รู้ ประเทศไทยก็ยังอยู่ที่เดิม หรือก้าวหน้ามาน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ช้ากว่าเขาเป็น 10 ๆ ปี วันนี้ต้องหาทาง

          เรื่องของสินค้าราคาถูก ผมพูดไปหลายครั้งแล้ว ก็ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติมขึ้นมา นอกจากร้านอาหารชุมชน ซึ่งมีอยู่แล้วเดิม ซึ่งบางที่ก็แพงเกินไป ไปขึ้นราคา เช่น บริเวณท่ารถ ท่าเรือต่าง ๆ ก็ถ้าเป็นพื้นที่ ๆ จำกัด คนไป-มา พวกนี้ขึ้นราคาตามความชอบใจไม่ได้ ราคาเขาควรจะเป็นอย่างไร ให้ท้องถิ่นไปดู แล้วไปบอกนายอำเภอ ผู้ว่าฯ เขา หรือไปบอกพาณิชย์จังหวัด เขาจะได้แก้ไข อย่าเอาเปรียบคนให้มากนัก ไม่ใช่อยากจะขึ้นอะไรก็ขึ้น อร่อยก็ไม่อร่อยอยู่แล้วด้วยบางร้าน ให้ไปช่วยกันดูด้วย

          ในส่วนของร้านอาหารราคาถูก ทุกค่ายทหารมีการปลูกพืชการเกษตรอยู่แล้ว บางค่ายก็ปลูกข้าวด้วยซ้ำไป ท่านก็มาตั้งร้าน อันนี้เป็นร้านเพื่อช่วยคนจน สถานที่ราชการทุกสถานที่ ครอบครัวก็มีฝีมืออยู่แล้วทำกับข้าวให้พ่อบ้านกันอยู่แล้ว ก็ไปหาปลูกพืชอะไรต่าง ๆ มาให้ราคาถูกลง ผลิตเอง ไม่มีสารพิษ อะไรก็แล้วแต่ แล้วก็ทำกับข้าวจานเดียวข้างค่าย หน้าค่าย ข้างสถานที่ราชการ ผมว่าอย่างนี้ คนจนเขาก็มีโอกาสที่จะมีทางเลือก เขาไม่ต้องไปซื้อร้านข้าวแกงที่ขึ้นราคาแพง ๆ จนเกินไป ลองทำหน่อย ผมว่าจะดีขึ้น สังคมก็จะดีขึ้น

          วันนี้ผมคงพูดเท่านี้ มีหลายเรื่องที่ได้พูดไปบ้างแล้ว แต่สิ่งสำคัญประการเดียวที่ผมอยากจะขอร้องทุกท่านก็คือ กรุณาฟัง แล้วก็คิดตามผม แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไรแค่ไหน ก็พิสูจน์ด้วยผลงานแล้วกัน แล้วผลงานของผมนั้นทำเองไม่ได้ หรือรัฐมนตรี รองนายกฯ ก็ทำเองไม่ได้อีก ก็ต้องทุกคน ทุกภาคส่วนมาช่วยกันทำ ไม่อย่างนั้นสำเร็จไม่ได้ เอากฎหมายอย่างเดียวไปบังคับกัน อะไรกัน ผมว่ามันไม่สำเร็จ ต้องอาศัยความร่วมมือว่า วันนี้เราถึงเวลาหรือยังที่จะต้องมาร่วมมือกันในการทำงาน

          ลำดับต่อไปนั้นผมขอเชิญ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลงานด้านความมั่นคงและรัฐมนตรีในกลุ่มความมั่นคง มาพูดคุยทำความเข้าใจในเรื่องที่สำคัญ ๆ กับพี่น้องประชาชนในด้านความมั่นคง อันนี้ก็คงต้องขอความร่วมมือด้วย ในทั้ง 5 ฝ่าย อันนี้เป็นรอบที่ 2 แล้วที่เข้ามาความมั่นคง ขอบคุณครับ สวัสดีครับ 

                                                                                                           ที่มา : http://www.thaigov.go.th/