พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2558

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2558

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 พ.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 3,986 view
รายการคืนความสุขให้คนในชาติ
 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย และ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2558 เวลา 20.15 น.

 

สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน

วันฉัตรมงคล เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมานี้ นับเป็นมหามงคลของปวงชนชาวไทย ที่มีโอกาสเฝ้ารอรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งทรงมีพระพลานามัย สมบูรณ์แข็งแรง ในการเสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ จากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ภายในพระบรมมหาราชวัง เพื่อประกอบพระราชพิธีฉัตรมงคล โดยตลอดระยะเวลา 70 ปี ตั้งแต่ปี 2489 – 2558 นั้น พระองค์ทรงครองราชย์ ได้ยึดมั่นในพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ยังความสงบสุขแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดมา ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ สิ่งที่เราชาวไทย ยึดถือและปฏิบัติสืบต่อกันมา นอกจากการประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ การร่วมทำบุญตักบาตร ประกอบพิธีทางศาสนา ถวายเป็นพระราชกุศล และถวายพระพรชัย อย่างพร้อมเพรียงกันแล้ว ผมขอเชิญชวนพี่น้อง ประชาชนชาวไทยทุกท่าน ร่วมกัน “ทำความดี เพื่อพ่อ” ตลอดปี และตลอดไป ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมไทยหรือของชาติในปัจจุบัน ได้แก่

เรื่องการจัดระเบียบสังคม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการมาเกือบ 1 ปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดระเบียบรถตู้  รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง อย่างไรก็ตามจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับ “การสร้างจิตสำนึกทางสังคม” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของการใช้รถ ใช้ถนน วินัยการจราจร ปัจจุบันอุบัติเหตุบนท้องถนนยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ผู้ใช้รถไม่ค่อยระมัดระวัง ในการใช้รถใช้ถนน ไม่เผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่เคารพกฎหมาย กติกา และการดื่มสุรา ขับรถ ขับยานพาหนะต่าง ๆ เหล่านี้ ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนบุคคล รถโดยสารสาธารณะ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่พยายามกวดขันทุกระบบอยู่แล้ว ตั้งแต่การออกใบขับขี่ การใช้รถใช้ถนน และการปฏิบัติตามกฎจราจร ตลอดจนการเพิ่มมาตรการ เช่น ใครโดนใบสั่ง เกินกี่ครั้งต่อปี จนต้องเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ แล้วสอบกันใหม่

ขณะนี้ผมเร่งไปหลายเรื่องด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถจักรยาน มีการบาดเจ็บเสียชีวิต ในช่วงนี้หลายรายด้วยกัน กวดขันไปว่าถ้าใครที่ทำให้เกิดความเดือดร้อน เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินช่วงนี้ ผมให้เข็มงวดอาจจะต้องยึดใบอนุญาตห้ามการขับรถไปในระยะเวลาหนึ่ง ถ้าไม่เข็ดหลาบก็เพิกถอนตลอดชีวิตไป อันนี้ก็เร่งรัดทางกระทรวงคมนาคมไปแล้ว

วันนี้ต้องเห็นใจซึ่งกันและกัน เจ้าหน้าที่เขาก็เหน็ดเหนื่อย จะบอกว่าเขาทำหน้าที่ แต่บางเวลาก็ไม่ใช่ เขาก็ต้องมาเสริมต่าง ๆ เบี้ยเลี้ยงวันละ 240 บาท ประมาณนั้น ก็ต้องอดทนทุกอย่าง ทั้งแดด ทั้งฝน ทั้งคนไม่ชอบ คนเกลียดก็มากมาย เห็นใจเขาด้วย คนขับรถจักรยาน จักรยานยนต์ รถยนต์ รถบรรทุก ต้องเผื่อแผ่แบ่งปันกัน ระมัดระวังกันด้วย ไม่ใช่ว่าไม่รับผิดชอบใครเลย มุ่งเน้นแต่ประโยชน์ของตนเอง อะไรก็ทำไม่ได้ทั้งสิ้น แก้ไขอะไรไม่ได้ทั้งหมด  จะใช้กฎหมายอย่างเดียวก็ไม่ได้ รัฐบาลจะแก้อย่างเดียวก็ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ ต้องทุกคนช่วยกัน

เรื่องต่อไปคือเรื่องการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายและปัญหาในการค้ามนุษย์ อันนี้คนละเรื่องกัน แต่เกี่ยวพันเชื่อมโยงกัน ความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ปัญหา ในเรื่องต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้

กรณี สหภาพยุโรป (EU) ออกใบเหลือง IUU แล้วก็การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ รัฐบาลได้ดำเนินการโดยใช้มาตรการต่าง ๆ พร้อมกัน โดยไม่รีรอ เพราะกฎหมายบางฉบับ บางเรื่องยังไม่ทันสมัย ไม่ได้ออก ไม่ได้มีไว้ วันนี้เราก็เร่งรัด เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น เอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหา ก็ทำควบคู่กัน ใช้มาตรา 44 ร่วมกับกฎหมายปกติ ที่เสนอเข้าไปใหม่ เพื่อพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่รอไม่ได้ก็ต้องใช้มาตรา 44 ไปขับเคลื่อน แล้วก็ใช้กฎหมายปกติให้ทำงานให้ได้ร่วมกันเท่านั้นเอง

ด้านนโยบาย จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายแก้ไขปัญหาไปแล้ว มอบหมาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติ ในระดับรัฐบาลอย่างที่ผมได้กำหนดไปแล้ว

ด้านกฎหมาย ผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประมง ได้สำเร็จลงแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งรัดออกกฎหมายลูกอีกหลายกฎหมาย เพราะว่าหลายกระทรวงด้วยกัน ก็ทำคู่ขนานกันไปให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ทันทีที่ พ.ร.บ. การประมงมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ จะมีการลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญาต่อผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง

ด้านการปฏิบัติ ผมได้เรียนไปแล้วมีปัญหาด้านกฎหมายที่กำลังออกอยู่ไม่ทันการ คสช. ได้อาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ที่มีชื่อย่อว่า ศปมผ. เป็นศูนย์เฉพาะกิจ ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้บัญชาการศูนย์ฯ สำหรับบูรณาการงานทั้งปวง เพื่อแก้ปัญหา IUU โดยทันที ไม่ต้องรอ พ.ร.บ. การประมง และกฎหมายลูกอื่น ๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ก็จะเน้นในเรื่องของการจดทะเบียนเรือประมง แรงงาน การติดตั้งระบบ VMS การตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า – ออก มีเกือบ 301 ท่า ที่จะต้องเข้า-ออก ตามนั้น แล้วก็เรื่องอาชญาบัตร เรื่องต่าง ๆ จะต้องตรวจสอบทั้งหมด เข้า-ออก เวลาไหน เครื่องมือเป็นอย่างไร ลูกเรือเป็นอย่างไร ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถึงจะออกไปได้ กลับมาก็ต้องตามเวลา แล้วก็มีการตรวจสอบย้อนหลังได้ด้วย

ขณะนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยกร่างแผนดำเนินการระดับชาติไว้ด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาในภาคประมงทุกเรื่อง แล้วนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ภายในอาทิตย์หน้า เราไม่ได้ทำกันไว้เลย เป็นแต่กระทรวงแต่ละกระทรวง กฎหมายแต่ละกฎหมายก็ทำกันมาอย่างนี้ตลอด วันนี้ต้องเป็นแผนชาติ

ด้านการสร้างความเข้าใจกับ EU และต่างประเทศ ได้จัดคณะทำงานช่วยกันเดินสายชี้แจงเชิงรุกทุกกระทรวง ต้องไปสร้างความมั่นใจ สร้างความเข้าใจ และแนวทางเจตนารมณ์ของเรา ในการแก้ปัญหามาตรการต่าง ๆ ที่เริ่มต้นในขณะนี้ในการแก้ปัญหา IUU อย่างต่อเนื่อง

กรณีการพบหลุมฝังศพชาวโรฮีนจา ผมขอเรียนว่า เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่เอาจริงเอาจัง ในช่วงนี้ ที่ผ่านมาก็มีการกระทำอยู่ จะเห็นว่ามีเรื่องนี้มานานแล้ว ทางฝ่ายความมั่นคงก็ดำเนินการมาโดยตลอด แต่ปัญหาอยู่ที่การบูรณาการทั้งระบบทำไม่ได้ โดยยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาเรื่องนี้ไปเกี่ยวกับเรื่องของแรงงานข้ามชาติด้วย กฎหมายระหว่างประเทศด้วย มากมายไปหมด เราต้องแก้ทั้งระบบ ปราบปรามทั้งขบวนการ ซึ่งมีตั้งแต่ต้นทาง มีจากคนในประเทศต้นทาง และกลางทางคือไทยก็มีคนไทยไปร่วมด้วย เชื่อมต่อกัน ปลายทางก็ประเทศที่ 3 ที่เขาจะไป ก็มีคนทั้ง 3 ประเทศอยู่ในขบวนการ แล้วก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมด้วย

ตามที่สั่งการไปแล้ว ทางกรมตำรวจก็รู้สึกจะปรับย้ายออกมาจากตำแหน่งทั้งสิ้น38 คนในส่วนของกรมการปกครอง ของกระทรวงมหาดไทยก็กำลังดำเนินการอยู่ คือจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะเกิดขึ้นมานานเต็มทีแล้ว และวันนี้เราเป็นรัฐบาล เพราะฉะนั้นผมเคยบอกไว้แล้วเรื่องความมั่นคงให้เป็นประเด็นหลัก เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้วก็อย่าโทษกันไป อย่าโทษกันมา วันนี้รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวมก็จะเร่งดำเนินการทั้งหมด ขอให้เชื่อมั่นเราว่าเรามีความตั้งใจในการแก้ปัญหา เพราะเราต้องเห็นอก เห็นใจ สิทธิมนุษยชนด้วย อะไรด้วย ต้องดูแลเขาด้วย การลงโทษดำเนินการไปบ้างแล้ว รายอื่น ๆ ใหญ่ ๆ ถ้ามีการสอบสวนถึงใคร ก็ลงโทษหมด ทั้งวินัย และอาญาด้วย

เรื่องของกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ก็มีความก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ อยู่ในขั้นตอนตาม Road map อยู่ในขั้นตอนที่ทั้งฝ่าย ครม. คสช. จะต้องรวบรวม ในสิ่งที่อยากจะให้แก้ไข อยากจะให้ปรับปรุงนั้นส่งไปให้ กมธ. ร่างรัฐธรรมนูญ ดูอีกครั้งหนึ่ง สปช. ตั้งไปแล้ว ทั้งหมดนี้จะไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่า กมธ. จะแก้ไขอย่างไร ถ้าไม่แก้ไข ถ้าจะนำเสนอขึ้นไปเพื่อโปรดเกล้าฯ จะต้องผ่านการทำประชามติก่อน ในเรื่องนี้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น ก็ต้องรับข้อทักท้วง ข้อพิจารณาจากทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของ ครม. คสช. วันที่ 19 ไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขปรับปรุง ภายในเดือนสิงหาคม แล้วก็จะให้ สปช. ลงมติ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ไม่เห็นชอบก็ร่างกันใหม่

ส่วนการจะทำประชามติหรือไม่นั้น ก็คงต้องหลังจากนั้น จะพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง ผมไม่สามารถจะตอบได้เวลานี้ ต้องมีวิธีการแก้ปัญหาจนได้ ถ้าเราร่วมมือกัน ไม่ขัดแย้งกัน ไม่ถกเถียงกันไม่รู้จบ ต้องไปกันจนได้ คสช. จะพิจารณาให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุด

หลักการที่ผมอยากจะฝากไว้ก็คือว่าทำอะไรก็ตามไม่ว่าจะร่างกฎหมาย ร่างรัฐธรรมนูญ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นมีความพึงพอใจ รับได้ ด้วยตัวของพี่น้องประชาชนเอง ไม่อย่างนั้นเราก็ถูกชี้นำ แล้วรัฐธรรมนูญทำให้เกิดความขัดแย้ง รัฐธรรมนูญนี้ต้องทำให้ต่างชาติเขายอมรับได้ ถ้าเราจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือว่าเพื่อการปฏิรูป ก็ต้องไปเพิ่มตรงไหนผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไปใส่กันมา ถ้าใส่ทุกอย่างเข้าไปในรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญก็ยาวมาก แล้วก็ข้อถกเถียงก็ไม่จบไม่สิ้นสักที ก็ไปว่ากัน

ส่วนคนที่ออกมาพูดวิจารณ์รัฐธรรมนูญวันนี้ ถ้าเคยบริหารราชการแผ่นดินมาแล้วในรัฐบาลต่าง ๆ ก็ไม่ควรจะพูดให้เสียหาย เพราะตัวเองนั้นก็ไม่ได้ทำอย่างที่เขาแก้ เพราะว่าไม่ได้ทำ เขาก็เลยต้องเขียนกฎกติกามามากขึ้น พอมากขึ้นก็ขัดแย้ง ท่านก็อยากจะกลับมาแบบเดิม ๆ มีอำนาจ อ้างอำนาจประชาธิปไตยเป็นของปวงชน ประชาชนเลือกมา อ้างอยู่แค่นี้ แต่ท่านไม่ได้แก้ปัญหาทั้งหมด ก็เลยมีปัญหาวันนี้ ผมถึงต้องมายืนพูดกับท่านวันนี้

เพราะฉะนั้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาจจะไม่เหมือนปกติ 100% แต่ต่างชาติก็ยอมรับได้ แล้วก็เป็นส่วนของการปฏิรูปด้วย อันนี้เป็นความสำคัญของประเทศไทย และก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาประชาธิปไตยของไทย ซึ่งจะต้องมั่นคง แล้วก็ยังยืน ที่ผ่านมาก็เปลี่ยนกันไป เปลี่ยนกันมา ไม่รู้กี่ฉบับแล้ว เพราะฉะนั้นการจัดระเบียบสังคม การแก้ปัญหาร้ายแรงของชาติ การสร้างความเข้มแข็ง ทุกภาคส่วน การมีธรรมาภิบาล ให้กับนักการเมือง รัฐบาล ข้าราชการ  ลด ละ เลิก สิ่งที่ทำให้ประเทศถอยหลัง วันนี้ คสช. ทำทุกอย่าง แต่คงทำคนเดียวไม่ได้ ต่อให้มีกฎหมายมากกว่า มาตรา 44 หรือกฎอัยการศึกก็ตาม ก็ทำไม่ได้ ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกัน ทั้งฝ่ายการเมืองทุกส่วน ภาคประชาชน ภาคเอกชน ต่าง ๆ ต้องช่วยกัน

เรื่องสลากกินแบ่ง ผมเห็นเป็นความเดือดร้อนมานานแล้ว บางคนก็บอกว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ รัฐบาลนี้ไม่เห็นน่าจะต้องมายุ่งวุ่นวาย แล้วก็ทำไม่ได้ ผมจะทำให้ได้ มีหลายมาตรการ เพราะว่าสิ่งสำคัญประการหนึ่งคือเราต้องเป็นไปตามกฎหมาย คือตัวลอตเตอรี่ เขียนไว้ 80 บาท ก็ต้อง 80 บาท ถ้าจะขาย 90 ก็ต้องพิมพ์ 90 วันนี้พิมพ์ 80 ก็ต้องขาย 80 เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องมาเคลียร์ใหม่ ตั้งแต่ ต้นทาง ปลายทาง ต้นทางก็คือที่กองสลาก โควตาต่าง ๆ ก็ต้องมาเกลี่ยดูใหม่ อันไหนหมดอายุไปแล้วก็มาปรับ เพิ่มโควต้าตรงโน้นตรงนี้ เพิ่มเติมให้เกิดความยุติธรรมมากขึ้น ต่อไปนี้ในเดือนมิถุนายน รับสลากได้ 2 ที่ คือ ส่วนกลางรับที่กองสลาก  จังหวัดต่าง ๆ  ไปรับที่จังหวัด

เพราะฉะนั้น แต่ละส่วนตรงนี้ก็ต้องมี โควตา มีผู้รับสลากชัดเจน แล้วการที่จะมีผู้รับ ผู้ได้โควตาไป ส่วนใหญ่ไม่ได้ค่อยไปขายเอง ได้โควตาไปแล้วไปขายต่อ คงมีได้แค่ขั้นตอนเดียว ได้โควตาแล้วไปให้กับผู้ขายเขาไปขาย จะได้มีกำไร ไม่ใช่ไปขายต่อไปอีกเรื่อย ๆ 3 - 4 ขั้น ก็บวกไปเรื่อย ๆ 70 80 90 สุดท้ายก็ไปออกสุดท้ายที่เดินตลาดอยู่ 90 แล้ว จะไปขาย 80 ได้อย่างไร วันนี้ก็ลดราคาออกจากกองสลากไปแล้ว รัฐบาลก็ได้เงินลดลง จาก 28% เหลือแค่ 20% เท่านั้นเอง ของรายรับ รางวัลก็ไม่ได้ลด แล้วในส่วนของตรงนี้ ก็ต้องคิดส่วนต่างให้เท่ากันทั้งหมด

เพราะฉะนั้น อยู่ที่ความซื่อสัตย์ต่อกัน ถ้าท่านซื่อสัตย์ ท่านยอมรับกติกาตัวนี้ ก็ขายได้ 80 เพราะฉะนั้นคนที่ได้โควตาไป ถ้าไม่ขายเอง จะไปให้คนขายต่อ คนเหล่านี้ก็ต้องมีกำไร ให้เขาไปเดินขายมีค่าใช้จ่ายเขา เท่านั้นแหละ แต่ถ้าไปขายต่อคนนี้ คนนี้ไม่ขายเองอีก ไปขายต่ออีกพวกหนึ่ง เป็นอย่างนี้มาตลอด เพราะฉะนั้น โทษใครไม่ได้หรอก ต้องโทษในกระบวนการกันเอง เป็นบ่อเกิดของการทุจริต แล้วก็มีการนำส่งโน่น ส่งนี่ ผมบอกแล้วว่าไม่ให้มีโดยเด็ดขาด จะจ่ายใคร ผมไม่สนใจ อย่าให้ผมต้องสอบว่าที่ผ่านมาจ่ายใครบ้าง อะไรอย่างนี้ ผมก็ไม่ได้ไปล้วงลึกอะไรขนาดนั้นแล้ว วันนี้ต้องแก้วันหน้าให้ได้ก่อน เอาเก่ามายังไม่ได้ เดี๋ยวก็ว่ากันไปทีหลัง

เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาการขายสลากนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมให้เวลามา 8 เดือนเต็ม ๆ ในการแก้ปัญหาด้วยกฎหมายปกติ ด้วยระเบียบ ข้อบังคบปกติ ก็แก้ไม่ได้ วันนี้ผมใช้มาตา 44 ในการตั้งกรรมการใหม่ แล้วก็เพื่อจะทำงานให้ได้โดยใช้มาตร 44 ปัญหาอย่างเดียวคือคนได้โควต้าแล้วไม่ขายจริง ก็จะมีขาใหญ่ไปรับซื้อ แล้วก็บวกราคาเข้าไปอีก มีการรวมเล่ม การจัดชุด ผมถามว่าจะมาจากไหน ก็มาจากคนที่ได้โควตาไป ก็มาขายคืนเขา ที่ว่า 5 เสือ 5  5 สิงห์ ก็แข็งแรงขึ้น กลับไปอีกที่ก็แพง เรื่องแค่นี้ เพราะฉะนั้นถ้าแก้กันไม่ได้ครั้งนี้ ผมคงต้องเด็ดขาดอาจจะยกเลิกการออกสลากชั่วคราว เพื่อจะจัดระเบียบใหม่ทั้งหมด ก็ต้องทำใหม่ เพราะฉะนั้นก็ไม่สำเร็จ ทุกฝ่ายรวมทั้งประชาชนช่วยกัน ก็รองวดมิถุนายน ถ้ามีการขายเกินราคาที่ใดอีกแจ้งมา ต้องขาย 80 บาท เท่านั้น รับสลากได้ที่ กองสลากกับที่จังหวัดเท่านั้น โควตาก็มีการปรับเพิ่มเติมให้ เพราะฉะนั้น พวกบรรดาพ่อค้า สมาคมมูลนิธิต่าง ๆ อย่าให้ผมรู้ว่าท่านเอาไปขายต่อ ไม่ได้ขายเอง โดยสมาชิกของท่าน ไม่ได้ ต้องช่วยกัน เป็นสิ่งเดียวที่ประชาชนเข้าถึงในขณะนี้ ผมไม่ได้สนับสนุนการเล่นการพนันเลย เพราะเป็นเรื่องของประชาชนยังมีความต้องการอยู่

เรื่องเศรษฐกิจ  เรื่องราคาสินค้าการเกษตร ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจโลกวันนี้ อาเซียน มีปัญหาอยู่ อย่าไปเปรียบเทียบประเทศที่เขาแข็งแรงแล้ว หรือประเทศที่เขามีอุตสาหกรรมหลักอยู่แล้ว เราเป็นประเทศเกษตรกรรม แล้วเราไม่มีความเข้มแข็งเลย ผมจะบอกให้ ไม่มีเลย ผมเข้ามา ที่ไม่ได้ทำก็คือเราไม่ได้แก้ไขปัญหาทางโครงสร้างมาก่อน การเกษตรเข้มแข็งอย่างไร ไม่ได้ทำ แก้ปัญหาเฉพาะกาล เฉพาะกิจไปเป็นหน้า ๆ ไป ไม่ได้ต้องใช้ความร่วมมือภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมมือด้วยการบูรณาการทุกกระทรวง ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกอย่างเดียว เท่าไรก็ได้ สนับสนุนการปลูกเข้าไป ราคามันสูงปลูกไป เกษตรกรก็ปลูกตามกันหมด กระทรวงพาณิชย์ก็ไปหาตลาด หน้าที่กระทรวงพาณิชย์ไปหาตลาด แล้วจะหาได้ไหม ต้องเริ่มตั้งแต่ความต้องการก่อน แล้วถึงกำหนดว่า ความต้องการในประเทศ ความต้องการต่างประเทศ อย่างไร หาตลาดได้ไหม แล้วอะไหล่ไว้เท่าไร ก็วุ่นไปหมดถ้าไม่เตรียมการอย่างนี้ วันนี้ทำอยู่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราพยายามจะไม่จ่ายเงินเป็นเงินเปล่า ๆ ไป ประชานิยมแบบนั้นไม่ได้ ก็ต้องช่วยเหลือ 1. บรรเทาความเดือดร้อน 2. สร้างความเข้มแข็งในลดต้นทุนการผลิต ไม่อย่างนั้นก็ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่ไม่ดี ผู้มีอิทธิพล ข้าราชการที่มิชอบ เพราะฉะนั้น เหล่านี้ ต้องปรับปรุงทั้งระบบ สินค้าเกษตร ข้าว ยาง ปาล์ม มันสำปะหลัง อ้อย ต่าง ๆ ทั้งหมด ต้องปรับปรุงทั้งหมด ทั้งพื้นที่ปลูก ทั้งพันธ์ปลูก ไม่ให้มีระบบผูกขาด รัฐก็ต้องสร้างแหล่งเมล็ดพันธุ์หลัก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องสร้างโดยกรมการข้าว แล้วก็ไปขยายพันธุ์หลัก ไปให้ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ของชาวไร่ชาวนา ที่เป็นสหกรณ์ สร้างขึ้นมา ท่านบอกว่าท่านถูกผูกขาดในเรื่องของเมล็ดพันธุ์ ต่าง ๆ เหล่านี้ กำลังทำตรงนี้ ถ้าไม่ทำตรงนี้ แล้วท่านจะโทษใคร เพราะเราเป็นประเทศเสรีประชาธิปไตย เสรีทางการค้า เข้าใจตรงนี้ด้วย เราเร่งตรงนี้ เพราะวันนี้มาเร่งสมัยเรา ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้

ในส่วนของเรื่องของคนอื่น ๆ ที่มีรายได้น้อย เช่น พ่อค้า แม่ค้า รับจ้าง แรงงาน มอเตอร์ไซค์รับจ้างเหล่านี้  เย็บผ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ที่แม่บ้านทำกันอยู่ ก็ต้องมาขึ้นทะเบียนแรงงานให้หมด ให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกันขึ้นบัญชี ทั้งอาชีพ รายได้ จะได้ดูแลได้ทั่วถึง แล้วก็เป็นธรรม มากน้อยก็แล้วแต่ความจำเป็น แล้วแต่ความเร่งด่วน ทั้งเกษตรกร แรงงาน หรือผู้รับจ้างทั้งหมด ครั้งที่แล้ว วันที่ 1 เขาก็มากันมาก ก็อยากเข้ามามีส่วนร่วม จะได้ต่อหมายถึงเรื่องประกันสังคม เรื่องอะไรต่อไปอีก ไม่อย่างนั้นก็ขาดเป็นวิ่น ๆ อยู่แบบนี้ ขายก๋วยเตี๋ยว เอาหมด ขึ้นบัญชีกันหน่อย เราจะได้ช่วยท่านได้ ไม่อย่างนั้นท่านก็โวยวายว่าไม่มีเงิน จะแย่อยู่แล้ว ก็ไม่ขึ้นบัญชีกัน จะทำอย่างไร

SMEs เหมือนกัน วันนี้ก็เข้ามาขึ้นบัญชีมากขึ้น  SMEs ก็มีทั้ง ขยายในประเทศ ขยายไปต่างประเทศ ที่เข้าเกณฑ์ ก็จะมีเงินทุนให้ อันที่ 3 ก็คือในส่วนของ SMEs ที่จะล้มละลาย ที่ใกล้จะปิดกิจการ แต่ยังดีอยู่ แต่ขาดเงินทุน จะไปดูให้ อันที่ 4 คือที่ล้มไปแล้วไว ๆ นี้ แต่น่าจะยังมีศักยภาพอยู่ก็จะไปฟื้นฟูขึ้นมา ต้องแบ่งเงินเป็นส่วน ๆ ถ้าท่านไม่ขึ้นบัญชีกับเราไม่จดทะเบียนจะช่วยได้ไหม จะช่วยไหวหรือไม่ SMEs ทั้งหมด 2 ล้านกว่าราย เอาแค่รายละบาทหนึ่ง ก็ 2 ล้านว่าบาทแล้ว เพราะฉะนั้นทุกคนก็ต้องการ 10 ล้าน 15 ล้าน บางอันก็ 10 ล้าน 15 ล้าน บางอันก็แสนเดียว สองแสน สามแสนทุกคนต้องการมากหมด เกษตรก็ต้องการ เศรษฐกิจก็ต้องการ การลงทุนพื้นฐานประเทศชาติก็ต้องการ ข้าราชการส่วนต่าง ๆ ก็ต้องการ ต้องการหมดเพราะเดือดร้อนไง ทุกคนต้องช่วยกันวันเป็นวาระแห่งชาติ ต้องช่วยกัน ปัญหาราคาการเกษตรตกต่ำก็ต้องสร้างความเข้มแข็ง ต้องใช้ความอดทน อดกลั้นแล้วก็เชื่อฟังในการทำใหม่ เรานำเงินในอนาคตมาใช้ไม่ได้ ใช้มากไม่ได้ กู้มาก ๆ ก็มีปัญหาหนี้สาธารณะอีก วันนี้ก็ 47% กว่า ๆ ถ้า 60% ก็ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ก็ยังคงสถานะหนี้อยู่

แต่หลายประเทศเขามีอนาคต เขาก็สามารถที่จะเป็นหนี้ได้เท่าไหร่ 200% บางประเทศ เขามีหนี้สาธารณะ 200% แต่เขาพัฒนาเลยหน้าเราไปแล้ว เขาก็มีทางที่จะนำกลับมาคืนได้ เขาลงทุนได้มากแต่ของเราเสี่ยง มาตรการลดความเสี่ยงเราไม่ได้เตรียมการไว้มากนัก การตั้งราคาเกินจริงทำให้ไม่สามารถนำสินค้าไปขายแข่งขันในตลาดโลกได้ เรื่องค่าแรง เรื่องอะไรมากมายไปหมด

รอบบ้านเราก็ประมาณ บางประเทศ 80 บางประเทศ 100 บาท บางประเทศ 150 ของเราก็ใกล้ ๆ ประเทศหนึ่งเท่ากัน มีอยู่ 2 ประเทศเอง 300 นี้ แต่ผมเห็นใจ 300 เป็นผมก็ลำบาก แต่ต้องให้เข้มแข็งก่อนแล้วจะเพิ่มขึ้นได้ แล้วก็ต้องดูสถานการณ์อาเซียนด้วย สถานการณ์การแข่งขันข้างนอกโลกด้วย เราจะมาดูกันอย่างไร ว่าค่าแรงไม่ขึ้นแต่ปรับขึ้นตามวุฒิ ตามความสามารถที่ไปทดสอบแรงงานมาได้ไหม ผมคุยกับพี่น้องแรงงานไปอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นเท่ากันหมดเป็นไปไม่ได้ในช่วงนี้

เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องร่วมกันกับเราในการที่จะพลิกวิกฤตต่าง ๆ ที่เลวร้ายเหล่านี้เป็นโอกาส ไม่ใช่มาทำลายกันเองในขณะนี้บางคน บางกลุ่ม บางพวกก็โจมตีให้ร้ายรัฐบาลอยู่ว่าทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ แก้ปัญหาไม่เป็น แก้ไม่ถูก นี้แก้ทั้งทางหลักการด้วย ทั้งทฤษฎีด้วย ตามหลักเศรษฐศาสตร์ด้วยแล้วก็แก้ในข้อเท็จจริงด้วย ปรับทั้งหมด ถ้าท่านคิดว่าท่านทำได้ดี ท่านลองพูดออกมาสิครับ ว่าท่านจะแก้อย่างไร คนที่พูดเก่ง ๆ ลองพูดสิว่าจะแก้ปัญหาปาล์มอย่างไรที่ไม่ใช่นำเงินไปจ่ายให้โดยตรง แก้อย่างไรบอกมา ที่พูด ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ แก้ยางได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาท่านก็อยู่ในอำนาจทั้งสิ้น ทำไมท่านไม่ทำ

วันนี้ ผมเริ่มทำ ท่านก็มาตำหนิผม ประชาชนฟังเอาก็แล้วกันจะเชื่อใครก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนการเกษตร สหกรณ์การเกษตร ให้เข้มแข็ง มีคุณภาพในการผลิตสินค้าเพื่อการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน รัฐบาลทำทุกอย่าง ลดต้นทุน ปรับปรุงพันธุ์ พัฒนาคุณภาพสินค้า สร้างตลาดใหม่ ๆ ตลาดชุมชน รวมกลุ่มสหกรณ์ให้เข้มแข็ง สหกรณ์ร้านค้าปรับทั้งหมดสหกรณ์ 7 ประเภท ไม่ใช่สหกรณ์ทั้งหมดมีหน้าที่ในการหาเงินมาปล่อยกู้ ไปซื้อโน่นซื้อนี่ ไม่ใช่ มีประเภทอยู่ สหกรณ์การเกษตรทำหน้าที่อะไร สหกรณ์เงินกู้ทำอะไร ทุกอย่างวันนี้จะเป็นธนาคารไปหมด กู้ไปใช้ของ นั่นคือหนี้ครัวเรือนที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นอย่าไปทำกันอีก ทบทวนหมดได้มีการสั่งการไปแล้วกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการบูรณาการร่วมกับทางทหารและกองทัพในการช่วยเหลือเกษตรกรก็เข้าไปสำรวจจริง ๆ ว่าที่ดินนั้น เป็นของตัวเองหรือของนายทุน สัญญาเช่าเป็นอย่างไร แล้วค่าเช่าเป็นอย่างไร ต้องไปเดินสำรวจทุกที ให้ทันกรอบหน้าแล้วก็ลดต้นทุนปัจจัยการผลิต หาเครื่องจักรกลมามี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งไปอยู่ที่สหกรณ์ที่เข้มแข็ง ส่วนหนึ่งอาจจะไปอยู่กับทหารกองพลพัฒนา หรือหน่วยทหารพัฒนา ทหารต้องลงไปช่วยหาเครื่องจักรเครื่องยนต์มา แรก ๆ อาจจะเช่ามา

ระยะสองซื้อมา แต่ต้องมีงบบำรุงรักษา ไม่อย่างนั้นพังหมดเหมือนเดิม อะไรก็พังหมด ใช้แป๊บเดียวก็พัง ต้องจัดระเบียบให้ได้อะไรที่เป็นสหกรณ์ สหกรณ์รับผิดชอบ อะไรที่อยู่นอกเขตสหกรณ์ไม่มีทหาร กระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปจัดการ ทำให้เป็นแปลงใหญ่ 5 ไร่ 10 ไร่เป็น 100 ไร่รวมกันมา แล้วก็ไปไถ่ให้ราคาเดียวกัน จัดระเบียบไถ่ก่อนไถ่หลังจะได้ไม่ไปถูกรังแกเอารัดเอาเปรียบ ถ้ารถไถ่ รถอะไรเหล่านั้น รถเกี่ยวอะไรต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วเดิมถ้าอยากร่วมมือกับเรา มากับเรา แล้วท่านจะมีงานเหล่านี้ตลอดไป แล้วก็เป็นธรรมด้วย สงสารชาวไร่ ชาวเกษตรกรเขาลำบากหมด ตั้งแต่ปลูก ขาย เป็นหนี้มาตั้งแต่ต้น ไม่เคยไม่มีหนี้เลย ก็เป็นหนี้ต่อไป ๆ กู้ใหม่ ให้มาใช้หนี้ก็เป็นหนี้เหมือนเดิม ตั้งแต่แม่ยันลูก

เพราะฉะนั้นก็ต่อเนื่องแบบนี้ ถ้าเราไม่แก้ทั้งระบบ ก็จะเป็นอย่างเดิม ต้องจดทะเบียนให้ได้เกษตรกร ให้ชัดเจนขึ้นหลาย ๆ อย่างรัฐบาลพร้อมที่จะช่วยเหลือ แต่ต้องขึ้นทะเบียนให้เรียบร้อยอย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วว่า ทุกคนจะต้องมีในบัตรประชาชนว่ามีอาชีพอะไร รายได้เท่าไหร่ต่อปีประเมินเอา ผมคงไม่ประเมินให้ท่านเสียภาษีให้มากนัก หรือมีกติกาอยู่แล้ว ว่าเท่าไหร่ ถึงจะต้องเสียภาษี ผมคงไม่ประเมินท่านชาวไร่ ชาวนาให้เกินต้องเสียภาษีในระยะแรก ต่อไปจะได้พัฒนาไปสู่ระบบภาษีใหม่ ๆ ที่จะช่วยท่านได้ด้วย สร้างคนให้เข้มแข็งให้เข้าสู่ระบบภาษีให้ได้

เรื่องกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทุกอย่างวันนี้ใช้กฎหมายปกติทั้งสิ้น แล้วกฎหมายที่ปรับปรุงใหม่เสร็จแล้วหรืออาจใช้มาตรา 44 ในบางเรื่อง มาตรา 44 นี้ก็จะเขียนให้ใกล้เคียงกับกฎหมายปกติ แต่ให้ทำงานได้ให้ทันสมัยขึ้น บูรณาการได้มากขึ้น กฎหมายเดิมเป็นแท่ง ๆ อยู่ก็บูรณาการเท่านั้นเองใช้มาตรา 44  สามารถบูรณาการได้ทุกงาน เพราะฉะนั้น ที่ผ่านมานั้นทุกกระทรวงทำกันเองหมด เพราะมีกฎหมายของตัวเอง แล้วก็บวกเข้าไปกับการขาดการเอาใจใส่ด้วยฝ่ายบริหาร ผมไม่ได้ว่าใคร ก็ไม่เอาใจใส่ไง ก็ปล่อยไป อะไรที่เป็นหน้าที่ของใครก็ปล่อยไป ตำรวจก็ไปตามกฎหมายของตัวเองก็ว่าไป

รัฐบาลก็จะทำเฉพาะสิ่งที่อยากจะทำไม่ได้ รัฐบาลต้องดูแลคนเท่าไหร่ 67 ล้าน ไม่ได้ดูแลเป็นจังหวัด เป็นพื้นที่ เป็นแหล่งที่ท่านเลือกตั้งมา ไม่ใช่ คณะรัฐมนตรีต้องดูคนทั้งประเทศเหมือนที่ผมทำเวลานี้ ยากหรือไม่ที่ต้องดูแลคน 67 ล้าน กับคนดูแลงานในเขตเลือกตั้งของท่านเขตเดียว ยากกว่ากันหรือไม่ ถ้าท่านรวมกันได้ ก็ได้ นี่คือประชาธิปไตยที่ถูกต้อง

การบริหารราชการแผ่นดินนั้น รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด มีความสัมพันธ์กับกฎหมายอื่น ๆ อีกมากมายแล้วก็สำคัญที่สุด คือ เป็นการจัดระเบียบการปกครองประเทศให้เป็นกฎกติกาสังคมทุกคนยอมรับ ให้ร่วมกันมา 80 ปีที่ผ่านมานั้น เรามีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 19 ฉบับ เพราะว่า รัฐธรรมนูญเราจะแก้ไปเรื่อย พอไม่ดีก็รัฐประหารก็แก่รัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาก็พยายามแก้กันในสภาก็แก้ไม่ได้ ก็มีเรื่องกันอยู่ในวันนี้ ก็ไร้ความมีเสถียรภาพ ผมก็เบื่อ ทหารก็เบื่อที่จะต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ ไม่อยากจะให้ประเทศชาติถอยหลัง แต่ก็จำเป็นในบางสถานการณ์ ก็อย่าให้เกิดอีก รัฐบาลก็ต้องสร้างความชอบธรรมให้ได้ เข้ามาด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ไม่ดูแลเฉพาะพื้นที่ของตัวเอง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ท่านรู้ดีอยู่แล้วทั้งหมด ท่านต้องบริหารแบบเดิม เป็นแบบเดิม

เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญเป็นกรอบเดินของยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปประเทศ เป็นเข็มทิศให้ประเทศเป้าหมายชัดเจนร่วมกันแล้วก็ส่งผลต่อชีวิต บทบาทของไทยในเวทีโลกด้วย เป็นพลังอำนาจของชาติ รัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทราบดี แต่เรามีเอกภาพ แล้วก็ทุ่มเทเสียสละ ทำทุกอย่าง เลยดูมาก ไม่ทันใจ ทุกคนใจร้อน พยายามเต็มที่ วันนี้เข้ามา 6 เดือนแล้ว ถ้าเป็นไปตามโรดแมปเหลืออีกไม่เท่าไหร่ จะทำได้แค่ไหนก็อยู่กับเวลาที่เราทำ ก็เต็มที่แล้วกัน เพราะฉะนั้นก็อยากจะให้แก้ไขปัญหาในอดีตให้ได้ก่อน วางรากฐานที่มั่นคง แนวทางปฏิรูปอะไรเอาไว้ แล้วใครมีโอกาสได้ทำต่อก็ทำไป ถ้าไม่ทำ ท่านจะทำอย่างไร ท่านไปหามาตรการตรงโน้น ถ้าท่านมากดดันผมตอนนี้ยิ่งไปไม่ได้ใหญ่ เพราะฉะนั้นรัฐบาลผสมมีปัญหา แต่ถ้าไปกำหนดอะไรก็ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของการเลือกตั้ง ก็ไปว่ากันมา

ในการปฏิรูปประเทศจะต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์ระยะยาว 10 ปี 20 ปี 30 ปี 50 ปี ว่าประเทศไทยจะเดินแต่ละช่วงอย่างไรให้สอดคล้องกับรัฐบาลที่จะมีอายุเข้ามา ท่านมาเดินต่อใน Main หลักตรงนี้ไป บ้านเมืองก็ไปข้างหน้า ตรงไหนที่ขัดแย้งกัน ทำไม่ได้ก็เอาไว้ก่อน อันนี้รอได้ แต่บางอย่าง เช่น การลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐาน การบริหารจัดการน้ำ การสร้างความเข้มแข็งภาคการเกษตร นี่หยุดไม่ได้ รัฐบาลไหนมาก็ต้องทำต่อ ๆ ถึงจะจบ ที่ผ่านมาไม่จบสักที เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็จะวางตรงนี้ไว้ให้ แต่ท่านไม่ทำผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะทำอย่างไร ประชาชนจะต้องเป็นผู้ที่กำหนดชะตาตนเองให้ได้บ้าง วันหน้าอย่าให้เขาชี้นำมากนัก

ในส่วนของรัฐธรรมนูญพอแล้ว เพียงแต่ว่าอยากให้ประเทศชาติสุขสงบ มีเสถียรภาพเหมือนวันนี้ ผมไปทุกประเทศเขาบอกว่าประเทศไทยมีเสถียรภาพ เขาชื่นชม เขาให้ผมยืนยันว่าเราจะเป็นอย่างนี้ต่อไป หรือตลอดไปไหม ผมก็บอกว่าในฐานะที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรีวันนี้ ผมก็บอกว่าผมมั่นใจ เพราะว่าคนไทยต้องรักชาติ รักสถาบัน และก็ร่วมมือกัน อย่าให้ใครชี้นำ ไม่อ่อนแอ เพราะฉะนั้นท่านต้องเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของท่านเอง อย่าให้ใครมาชี้นำ ต่างประเทศผมพยายามสร้างความเข้าใจ ทุกคนไม่ได้รังเกียจผม แต่ธรรมดาประชาธิปไตยโลกก็เป็นแบบนี้

วันนี้การท่องเที่ยวอยากจะบอกว่า มีมากขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยกว่า 2 ล้าน 2 แสนคน ในช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วร้อยละ 18.34 ได้รายได้เข้าประเทศกว่าแสนล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 22 ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่ชาวต่างชาติพร้อมจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศเรา เราต้องร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างความสงบสุข มีเอกลักษณ์ของเราเอง เป็นภาพพจน์ที่ดีของชาติ

ในช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา 1 – 5 พฤษภาคม 2558 ก็มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาพักผ่อนในประเทศไทยกว่า 3 แสนคน นำรายได้เข้ามา 14,000 ล้านบาท ก็น่าดีใจ คนไทยก็เลือกที่จะท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ไปต่างประเทศก็ธรรมดา เมื่อเขามาประเทศไทย เราจะห้ามคนเราไปบ้านเขาก็ไม่ได้ แต่ก็ขอร้องคนไทยด้วยกันว่า เที่ยวเมืองไทยในช่วงนี้ก็ดี เงินจะได้อยู่ในประเทศ คนรวย ๆ จะไปก็ไป คนไม่รวยมากนักก็อย่าไปเลย เที่ยวเมืองไทยก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น จังหวัดที่กำหนดไว้ แนวใหม่ “12 เมืองต้องห้าม...พลาด” เป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลในปีนี้ ท่องเที่ยววิถีไทยมีทั้งปี ทุกภาคมีทั้งปีขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วน ที่เสียสละทำงานในช่วงวันหยุด เพื่ออำนวยความสะดวก รักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว พี่น้องประชาชนทุกคนที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับผู้มาเยือน ผมเป็นห่วงอุบัติเหตุอย่างเดียวเมาสุรา ไม่อย่างนั้นกลับมาที่รัฐบาลหมด รัฐบาลเปิดวันหยุดยาวเกินไป คนก็เลยดื่มสุรามาก แล้วก็เลยเกิดอุบัติเหตุมาก กลับมาหาผมหมด สร้างทางจักรยานก็มีรถชนก็บอกผมว่าไม่ปลอดภัย แล้วผมจะทำอะไรได้ ทุกคนต้องช่วยกัน ทำแล้วต้องมีคนรักษา มีคนดูแล ทุกคนก็ต้องทำกันต่อ ให้แบ่งความรับผิดชอบกันไป ใครไม่ทำบอกมา เจ้าหน้าที่ไหนไม่สนใจบอกมา แจ้งศูนย์ดำรงธรรมได้ทุกที่ ไปแจ้งมา

เดือนพฤษภาคมนี้เป็นเทศกาล “ผักผลไม้ไทยคุณภาพ” อังคารที่ 6 – 31 พฤษภาคม 2558  มีทั้งผัก ทั้งผลไม้ วันก่อนผมไปเปิดมา ช่วงนี้ก็ให้ต่างชาติ ใครมาเยี่ยมผม ผมก็ส่งไปเดินตลาดทำเนียบรัฐบาล ทุกคนชื่นชมประเทศไทยผลไม้อร่อย เมื่อวานผมก็พาเขารับประทานบางคน บางทูตไม่เคยทานทุเรียน เพราะกลิ่นเหม็น ผมเป็นพ่อค้าก็ชักชวนเขาชิมดู ให้อุดจมูกชิมก่อนก็ได้ วันหลังก็เห็นเปิดจมูกกินกันหมด เขาบอกว่าอร่อย เพราะว่าเป็นทุเรียนเก่า พวงมณีก็มี ทุเรียนอะไรที่หายากก็มี แล้วก็มะม่วงมีตั้งแต่ขนาดเล็กยันขนาดใหญ่ สีม่วง สีแดงมีหมด ไปดู ว่าง ๆ มาดู ตอนนี้ทำเป็นเต็นท์ติดแอร์ด้วย อาจจะแอร์ไม่ค่อยเย็นนัก เพราะพื้นที่ยาว ใหญ่ และเป็นผ้าใบพลาสติก อย่างน้อยก็ดีกว่าเดิม เดิมเห็นว่าร้อน ๆ ก็เลยมาเย็น ๆ วันนี้มาได้ทั้งวัน ผลไม้จะได้ไม่เสีย ก็เย็นเล็กน้อย เย็นมากกว่านี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ถือพัดลมมาพัดคนละอันแล้วกัน มาช่วยกัน เพราะฉะนั้นเราก็คาดหวังว่าให้เขารู้จัก เกษตรกรมาจากหลายจังหวัด เขาบอกผมมาอันหนึ่งว่า เขาได้มาเจอนายกรัฐมนตรี เขาเข้าใจ เพราะว่าเขาฟังจากวันศุกร์ของผม วันแรกเขาบอกว่าฟังไม่รู้เรื่อง เพราะผมพูดเร็ว หลัง ๆ เขาก็พยายามอดทนฟังหน่อย จนกระทั่งเขาเริ่มฟังรู้เรื่องแล้ว เขาบอกมีสาระ ผมก็ชื่นใจ เขาก็ไม่ได้จบอะไรสูงมา ดูถูกเขาไม่ได้ แต่เขาบอกอย่างนี้ถูกต้องแล้ว มีโอกาสมาตลาดแบบนี้ ไปเข้ากับตลาดชุมชน เดี๋ยวกระทรวงเกษตรไปจับเขามา SMEs เข้ามา ส่งเสริมการส่งออก ผมก็แนะนำเขาว่า ขนมที่ทำสำเร็จรูป เช่น ทุเรียนกวน กวน ๆ ทั้งหมด ทำมาเป็นกล่อง ๆ อย่างนี้ ขายไปก็ขายได้เพียงกล่องเดียว ใครจะกินกันหมดกล่อง ก็ให้ไปทำเป็นทอฟฟี่ทำห่อเล็ก ๆ ทุเรียนขายได้อยู่แล้ว ท่านขายเป็นแพ็กจะขายหมดได้อย่างไร ถ้าทำเป็นท๊อฟฟี่ขายได้ 50 , 100 ท๊อฟเม็ดในถุงขายได้มากกว่าแพ็กนี้อีก เขาบอกจริง ๆ อีกอันคือแพ็กเกจต้องสวย ๆ หน่อย ถ้าขายอาเซียนก็โอเคธรรมดา รสนิยมอันเดียวกัน สีฉูดฉาด แต่ถ้าขายยุโรป ขายตะวันตกต้องคลาสสิก ต้องมีการดีไซน์ออกแบบให้ดี ต้องมีดีไซน์เนอร์ทุกอย่าง การค้าขาย

เพราะฉะนั้น วันนี้ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยได้ขยายผลต่อยอดไปยังห้วงต่าง ๆ ด้วย คือขาดแคลนตรงตลาด วันนี้ตลาดชุมชนก็เตรียมเร่งกันอยู่ เรื่องเมล็ดพันธุ์พืช เรื่องการขายปลีก ขายส่งก็มีปัญหาหมดหาว่า ผมไปเอื้อประโยชน์ให้กับพ่อค้ารายใหญ่ ก็ผมกำลังสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้อง สร้างตลาดของชุมชน ตลาดของชาวบ้านนำของมาขาย ใครมีสตางค์ขึ้นห้างสรรพสินค้าก็ไป ใครไม่มีสตางค์ก็มา สำคัญตรงนี้สร้างหรือยัง กำลังสร้างอยู่ 2,000 กว่าแห่ง เรื่องเมล็ดพันธุ์ก็กำลังสร้างอยู่ จะได้ไม่ต้องไปซื้อเมล็ดพันธุ์เขามากนักทำนองนี้ แต่ก็ต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ผมไปหยุดตรงนี้แล้วจะทำอย่างไร เศรษฐกิจอื่นจะไปอย่างไร ผูกพันเชื่อมโยงหมดเขาเรียกว่า Connectivity ความเชื่อมโยง โซ่เศรษฐกิจ วันนี้ผมก็พูดมามากแล้ว

ลำดับต่อไป ผมก็ขอเชิญ ท่าน ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มาพูดคุยในเรื่องเกี่ยวกับงานในความรับผิดชอบ ก็สำคัญที่สุดคือกฎหมาย กฎหมายมีไว้ให้คนอยู่ร่วมกันได้ กฎหมายไม่ใช่เป็นกฎหมายเพื่อสร้างความขัดแย้ง เพราะฉะนั้นกฎหมายจะใช้เมื่อไม่เรียบร้อย ถึงจะบังคับใช้กฎหมาย ถ้าสังคมไม่เบียดเบียนกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เจ้าหน้าที่ก็สบาย งานก็น้อยลง ก็หงุดหงิดน้อยลง และไม่ต้องบังคับใช้กฎหมายมากนัก ไม่ต้องใช้ความรุนแรงประชาชนก็มีความสุข ถ้าทุกคนรู้จักบทบาทของตัวเอง อยู่ในที่ที่สมควรจะอยู่ ก็ลดความขัดแย้ง พ่อแม่พี่น้องด้วยกันทั้งนั้น ตำรวจก็ลูกท่าน ทหารก็ลูกท่านใช่ไหม นักการเมืองก็ลูกท่านใช่ไหม เพราะฉะนั้นทุกคนต้องร่วมมือกันสร้างชาติ ขอท่านอย่างเดียว ผมก็ทำเต็มที่ ไม่มีท้อแท้ พยายามทำให้ดีที่สุด จนถึงที่สุด ขอบคุณครับ สวัสดีครับ

                                                                                        --------------------------

                                                                                    ที่มา : http://www.thaigov.go.th/